วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

เกาะหรรษา: กว่าจะถึงฝั่ง ( part I)




I've just had a very exciting boat trip to the Puyu Island in Satun as the sea's very rough. Our TSU team didn't know what to do, just prayed and hoped we could reach the shore safely. It was a long 20-minute journey indeed. However, seeing school kids dressing in local muslim styles made us feel better. They're very lovely and bright in these uniforms.





ไปนิเทศรร.เกาะยาวและโรงเรียนตันหยงกาโบยบนเกาะปูยู อำเภอเมือง สตูล 

ขาไปพวกเราเจอคลื่นลมแรง น่ากลัวจนแทบทุกคนหยิบเสื้อชูชีพมาใส่เพื่อช่วยเรื่องความรู้สึกว่าจะถึงที่หมายปลอดภัย



20 นาทีของการนั่งเรือช่างยาวนาน จะรอดมั๊ยเนี่ย เรานึกไปถึงปีที่แล้วที่ไปเกาะหลีเป๊ะกับเอกสังคมศึกษา คลื่นสูงมาก เรือโยนตัวอยู่ตลอดเวลา น่ากลัวสุดๆ


ครั้งนี้ถึงจะไม่ใช่ขนาดนั้นแต่เรือก็โคลงเคลงตลอดเวลา ดีที่ไม่มีใครเมาเรือ
โชคดีที่ขากลับเป็นช่วงน้ำลงเลยไม่มีปัญหานั่งเรือที่เหมือนนั่งรถไฟเหาะ(เวอร์ชั่นทะเล) ถึงจะว่ายน้ำเป็น โรคกลัวน้ำเราก็จะกำเริบเป็นระยะๆเมื่อนั่งเรือระยะไกล ฮ่าๆ  การมาเกาะนี่ช่างให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้นดีแท้ๆ








พอเรือจะจอดที่ท่าก็จอดไม่ได้ซะอีก โชคดีที่่คนขับเรือสามารถหาที่จอดท้ายเกาะได้ ไม่งั้นคงลอยเท้งเต้งอยู่ในน้ำกันอีกนาน 


เมื่อขึ้นมาบนฝั่ง การมองทะเลก็เปลี่ยนไป รู้สึกน้ำทะเลสีเขียวสวย เนื่องจากแดดดี ในขณะที่ตอนอยู่ในเรือ ไม่มีสติที่จะมองเห็นความงามของทะเลเลย อิๆ  คุณครูที่รร.เกาะยาวบอกว่าช่วงนี้คลื่นลมแรงมาหลายวันแล้ว (เรานึกในใจว่าทำไมไม่แจ้งทีมนิเทศบ้าง จะได้เลื่อนวันมา ไม่ใช่ต้องมาเสี่ยงชีวิตแบบนี้ ไอ้เราก็เลือกมานิเทศวันนี้เพราะเป็นการนิเทศวันสุดท้ายของเทอมนี้ ซึ่งเราเลื่อนมาหลายครั้งเนื่องจากภาระกิจการสอน กลัวสอนไม่ทัน 


ศ.28/2/14 ปลอดคิวที่สุด เพราะปิดคอร์สกันเสร็จแล้ว เรียกว่างานราษฎร์ไม่ทำให้งานหลวงเสีย :) ไม่นึกว่าวันดีๆอย่างนี้ คลื่นลมไม่เป็นใจเอาซะเลย 










นร.ที่นี่แต่งกายลำลองในวันศุกร์ ดูน่ารักและสดใส (อยากใส่บ้าง อิๆ) ฟังจากคุณครูมาว่าเป็นชุดแบบมลายู เพิ่งเริ่มใส่เมื่อสองเดือนก่อน (ว่าทำไมยังดูใหม่มาก) โดยทางรร.ออกค่าชุดให้นร. คุณครูบอกว่าผู้ปกครองไม่ค่อยออกเงินสนับสนุนค่าใช้จ่าย (สงสัยถือว่าเป็นหน้าที่ของรร.) เรื่องแบบนี้บอกถึงความร่วมมือของผู้ปกครองนะเนี่ย เพราะหากรร.ไม่มีงบประมาณ แสดงว่าเด็กๆก็จะไม่มีชุดดีๆใส่สิเนอะ 








เราเข้าไปดูห้องเรียนประถม 1 ซึ่งไม่มีคุณครูสอน เลยสอนซะเอง เพื่อจะได้รู้พัฒนาการของเด็กๆ เราพบว่าเด็กๆอ่าน เขียน ภาษาไทยยังไม่คล่อง และการเรียนการสอนเป็นไปได้ช้า เมื่อลองให้นักเรียนเขียนคำศัพท์จากหนังสือเรียน เช่น ลูกบอล ปูนา ช้าง มีหลายคนที่ยังเขียนไม่ได้ 

ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเราชูภาพ "ภูเขา" นักเรียนรีบตอบทันที "บูกิต" ทำให้เราถึงบางอ้อ ว่าพวกเค้าใช้ภาษามลายูมากกว่าภาษาไทยนี่เอง  เราเลยถามว่านักเรียนรู้จักจังหวัด "ภูเก็ต" มั๊ย ส่วนใหญ่รู้จัก เราเลยเล่าให้ฟังเป็นเกร็ดความรู้ว่า มีตำนานเกี่ยวกับชื่อจังหวัดว่าเมื่อก่อนคนจีน คนมลายูนั่งเรือเข้ามาที่เกาะและเห็นภูเขาเยอะ เลยร้อง "บูกิต บูกิต" จนเพี้ยนมาเป็น "ภูเก็ต" เมื่อเวลาผ่านไป  (แอบรู้สึกภูมิใจที่พื้นความรู้ภาษามลายูของตัวเองยังมีเลยโยงเรื่องราวได้ อิๆ)





--------------------------------------------

2 ความคิดเห็น:

  1. โหววววววว งานหลวงไม่ให้เสีย งานราษฎร์ก็ได้ทำ


    เราชอบรูปตอนนกสอนเด็กๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เมื่อรู้ว่ามีคนจะถ่ายรูปให้ เราต้องทำเป็นใจดี หน้าตามุ่งมั่น รักเด็กๆ สักหน่อย (คือถ้าทำหน้าตาลดวัยไประดับประถมได้ก็ทำไปแล้ว ฮี่ๆ)

      ลบ