วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Summer internship experience: Consulate of Malaysia, Songkhla



Hi there!!! After spending almost 2 months, I think this is the best time to share you all what I have completed during summer vacation.
Before the final examination, there were so many things I planned to do in summer break. However, there was only one thing standing out in my mind as my special plan. That was internship at Consulate General of Malaysia, Songkhla.
I have got such memorable experience that I’ve never gained before. In the first month, I worked in VISA department and I was so proud of myself to be part of VISA process.

For the second month, I moved to the translator and interpreter department. Honestly, the first time I stepped to the department I was a bit nervous. Hahaha. I wondered what I was going to be assigned. Yes!!! I was asked to translate lots of letters and news both in English & Thai. Additionally, I got chances to go working outside the office which I truly loved, namely, breaking fast at the Southern Border Provinces Administration Centre on Ramadan, joining the Musician Garden and Ambassador Cuisine events, and also outing in Malaysia.


Although working was so hard and tiring, all officers made me happy. It was because they all were generous to me and they bought me food and drink a lot lol 😂
Nothing to say except thank you they all for giving me such nice relationship and good working experience. It’ll be in my remembrance ever.  

Reporter: Amir 

R✔️

Book review: กล่องไปรษณีย์สีแดง



How would you feel if you received love letters from your close friend ? 💌
กล่องไปรษณีย์สีแดง is the story about Khaiyoiy’s love letters and diary which are sent to his close friend, Dakanda, who are 1,500 kilometres far away from him📮
The most impressive part of this book is Khaiyoy’s hidden feelings towards his best friend. The shy man chooses to tell the story of his life, journeys after graduation, including his true feelings to her via letters instead of e-mail or the telephone which is easier and quicker than writing. It’s such a cute and romantic way to show one’s feelings. ✉️📧
Apart from life, love, and friendship stories, Khaiyoy also describes relaxed atmospheres and the natural beauty of places he visited such as Pha-ngan island and Sai Nuan beach. He makes me feel like I’m traveling with him while reading. 🏝🛣
Because of its touching plot, this book created inspiration for Khomkrit Treewimon, a Thai film director, to make a Thai famous movie “ Dear Dakanda”. 🎬
Let’s enjoy the 1,500 kms travel of love by reading this book with your close friend.





Book reviewer: Amarawadee, soon to-be- 4th year Eng. major student 

Explore Worldview through English!




" The more you practice a language, the more you master it"
City English Project is such a productive program for me.
All American teacher volunteers are so kind and friendly
As a Chinese-major student, I’m looking forward to a program like this. It has brushed up my Eng a lot, especially in term of pronouncing English words, moreover I've learned some conversational English, Christianity beliefs and American cultures like, Greeting, firm shaking hands.
When meet and greet an American person make direct eye contact as you are firmly shaking hands with the person . And any others interesting activities in class. Overall, this activity is a benefit for me to enhance more English knowledge.
*The program has run from 31 Jul- 3 Aug. 2018 from 9-11 a.m.


Reporter: Pawit, soon-to-be 4th year Chinese major student 

Me myself my shelf




ก่อนจะเปิดเทอม 14/8/61 ต้องหาเวลาตะลุยร้านหนังสือสักหน่อยแล้ว ต้นเดือนสค.61 เราเลยไปซะ 2 ร้านรวด และกำลังจะไปอีกทีสัปดาห์เกษตรแฟร์ ที่มอ.หาดใหญ่ ซึ่งมีมุมหนังสือราคาถูกขายทุกปี นอกจากต้น Mint ที่ซื้อกลับบ้านมาปลูกทุกปี ก็มีร้านหนังสือนี่ล่ะที่เป็น A must ที่เราเฝ้ารอ
แนะนำร้านหนังสือ 2 ร้านนี้เลย

1. ร้าน KBP (Kid Book Party) ติดกับรพ.ศิครินทร์ หาดใหญ่ ใน FB ของร้านอธิบายเส้นทางไว้ละเอียดและหาง่ายมาก เพียงแต่คนมาครั้งแรกจะงงหน่อยที่เมื่อเดินไปถึงพิกัดที่เพจแจ้งไว้ แล้วหน้าร้านมันอยู่ไหนหว่า ง่ายๆเลย มองจากข้างหน้ามันเป็นหอพัก และร้านดูมิดชิดมาก มองแล้วไม่รู้เลยว่ามีร้านหนังสืออยู่ข้างใน คล้ายๆเป็นห้องผู้ดูแลหอประมาณนั้น เมื่อโทรไปตามเบอร์โทรที่ได้ มาจากเพจ น้องผช.ที่ดูแลร้านก็จะมาเปิดประตูให้
ว้าว! หนังสือภาษาอังกฤษบนชั้นมีมากมาย เรียงรายกันไปในห้องขนาดยาว และมีอีกเยอะที่ยังอยู่ในลังน้องผช.ยังไม่จัดขึ้นชั้น ร้านนี้เราได้รับการแนะนำมาจากเจ้ย ซึ่งเป็นคอหนังสือมือสองภาษาอังกฤษเหมือนกัน วันที่นัดรวมทีมเพื่อนม.ปลายไปทานข้าวเที่ยง
เรากับฟานีใช้เวลาเลือกหนังสือกันร่วมชม.ครึ่ง และได้กลับกันมาหลายเล่ม เราถามน้องผช.ว่าทำไมร้านดูมิดชิดจัง น้องบอกว่าส่วนใหญ่จะขายทาง FB ซะมากกว่า (อื้อหือ! เป็นการขายที่ช่างต่างจากสมัยก่อนที่ร้านต้องอยู่ติดถนนใหญ่ คนผ่านไปผ่านมาเห็นและเดินมาเลือกสินค้าในร้าน เดี๋ยวนี้อะไรก็ขายออนไลน์กันหมดแล้ว จะว่าไปเราก็เคยใช้วิธีหาหนังสือภาษาอังกฤษมือสองออนไลน์เพื่อมาสอนวิชา Analytical & Critical Reading นิสิตรหัส 58 เรื่อง I am Malala (เรื่องราวของดญ.ชาวปากีสถานที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะโดยชาวทาลีบันที่ไม่สนับสนุนให้ผญ.ในย่านนั้นได้รับการศึกษา ดญ.ได้รับรางวัล Nobel Prize สาขาสันติภาพจากการกระทำเพื่อสนับสนุนการศึกษาของเธอเมื่ออายุ 18 ปี)

น้องผช.ใจดีลดราคาหนังสือให้เรา 50 บ. ส่วนฟานีได้หนังสือฟรีเพิ่มอีก 1 เล่ม (เย้ๆ) ในช่วงงานเกษตรแฟร์ ทางร้านจะนำหนังสือมาจำหน่ายด้วย น้องบอกว่าราคาจะถูกกว่าด้วย
---------------------------------------------------------------------------------------
2. ร้านหนังสือเล็กๆ ถ.ยะหริ่ง อ.เมือง สงขลา

ร้านนี้เป็นที่พูดถึงกันในหมู่นักอ่านสงขลา และเคยลง A Day ในฉบับที่พูดถึงการที่คนต่างจังหวัดที่ไปทำงานเมืองกรุง กลับบ้านมาทำธุรกิจเล็กๆของตนเอง
ว่าทำไมเราหาร้านนี้ไม่เจอ เพราะมันไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนสายหลักย่านเมืองเก่านี่เอง ต้องเดินเข้าซอยไปเล็กน้อยถึงจะเจอร้านนี้ มุมหนึ่งของร้านตกแต่งไปด้วยเรื่องราวของเจ้าชายน้อย ดู cute ดี

เมื่อเราถามว่ามีหนังสือมือสองขายด้วยไหม พี่เจ้าของร้านก็ชี้ให้ลองดูในลังใต้ชั้นวางหนังสือ เย้ๆ และนี่คือ 1 ในนักเขียนที่เราชื่นชอบ “วิชัย” นักเขียนที่เล่าเรื่องธรรมดาให้ดูไม่ธรรมดา และฮาได้ทุกหน้า เราตามอ่านงานของเค้ามาตั้งแต่ “สิ่งมีชีวิตในโรงแรม” และเคยพลิกๆดูหนังสือเล่มนี้ “มันมากับความเหมียว” ที่ร้านหนังสือเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่อินกับแมวมาก 55
ตอนนี้มีแมวแม่ลูกอ่อนมาขออาศัยอยู่ที่บ้าน 3 ตัว (เอิ่ม จะว่าขอก็คงไม่ถูก เพราะมันคิดจะอยู่ มันก็ขนกันมาเลยอย่างไม่ได้รับเชิญ เราก็ทำตาปริบๆเลี้ยงกันไปสิ) อ่านเรื่องนี้ได้ 2 บทแล้ว ร่ำๆว่าอยากเขียนเรื่องบ้าง อิๆ
เวลาอยู่บ้าน ช่วงนี้เมื่อว่าง เราเลยจะใช้เวลาสังเกตพฤติกรรมแม่แมว กับลูกแมว 2 ตัว


เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมโลก อิๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Movie Review: Butter อลวนคนพันธ์ุเนย




Movie review:  Butter อลวนคนพันธุ์เนย
Date of watching: 15 Feb. 2018

ซื้อหนังมาหลายเรื่องมาก ตอนไปห้าง Central Fest สุราษฎร์ธานี เป็นกะบะซีดีที่มีหนังเก่าๆที่เรายังไม่เคยดูและอยากเก็บตก เพราะก่อนหน้านี้แทบไม่มีเวลาดูหนังเลย 

-          Animal Farm กองทัพสี่ขาท้าชนคน
-          The Ramen Girl  เสน่ห์สาวราเมน
-          Butter อลวนคนพันธุ์เนย
-          I Don’t know how she does it จัดคิวรักให้ลงล๊อค
My Sweet Orange Tree ต้นส้มแสนรัก
ทั้งหมดนี้เรื่องละ 20 B.
จะรออะไรล่ะคะ ซื้อเลยค่ะ

Nader & Simin หนึ่งรักร้าง วันรักร้าว
ศึกข้ามพิภพสยบซาตาน The Imaginarium of Doctor Parnassus
2 เรื่อง 99 บาท (ราคาก็ยังถือว่าถูก แค่ 50 B./ เรื่อง)




Butter

ช่วงหลังๆหนังที่ดูมักเกี่ยวกับอาหาร อิๆ ทั้งที่ก็ทำอาหารไม่ค่อยเป็น การได้ดูเรื่องราวผ่านการทำอาหาร ทำให้เห็นวัฒนธรรมการกิน การใช้ชีวิตของชาตินั้นๆ
สองปีก่อนเคยดูหนังเรื่อง The Hundred-Foot Journey   / Jiro ซูชิ /  Julie & Julia (2009) / เรื่อง Lunchbox ที่ยังดูไม่จบ และตอนนี้มีเรื่อง Ramen Girl (2008)ในสต๊อค

ตอนอยู่อเมริกา วัฒนธรรมการกิน cheese และเนย เห็นได้ทั่วไป ทำให้เราสนใจว่าหากมีหนังสักเรื่องนำเรื่องเนยมานำเสนอนี่จะออกมาในรูปแบบไหน
หนังมีช่วงน่าเบื่อบ้าง และกึ่งๆว่าจะเป็นหนังผู้ใหญ่ที่สอนใจคนวัย 30 up เรื่องการใช้ชีวิต การเบื่อคู่ชีวิต และการยึดเหนี่ยว ยึดติดกับ butter เพื่อไม่ให้ชีวิตโดดเดี่ยว นางเอกตัวหลักของเรื่องมีชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ สิ่งเดียวที่เธอมีคือการแกะสลักเนย เมื่อสามีไม่ประกวดแกะเนยอีกต่อไป เธอเลยต้องมาลงแข่งขันด้วยตนเอง

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคู่แข่งที่น่ากลัวกลับเป็นหนูน้อยวัย 10 ขวบที่มีฝีมือด้านศิลปะอย่างหาตัวจับยาก เรื่องนี้ทำให้เห็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของอเมริกาคือการรับบุตรบุญธรรมและการส่งต่อเด็กกำพร้าไปยังครอบครัวอุปถัมภ์ ซึ่งเด็กกำพร้าบางคนอาจจะต้องย้ายครอบครัวหลายครั้งหากไม่สามารถอยู่กับครอบครัวนั้นๆได้ หนูน้อยเลยกลายเป็นคนยิ้มยาก แต่ยามใดที่เธอได้แกะเนย เธอดูมีความสุขและสนุกกับมัน

เมื่อ 1 ผู้ใหญ่ที่ต้องชนะ และ 1 เด็กที่แกะเนยเพราะเป็นสิ่งที่เธอรัก ต้องมาแข่งขันกัน มันเลยกลายเป็นเกมที่ผู้ใหญ่พยายามที่จะต้องชนะ แต่ท้ายสุดเด็กที่ใสๆก็สามารถชนะใจกรรมการได้



วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ฺBook Challenge


Book Challenge
ได้รับคำเชิญจาก Oh Khana และ Minna Y. RT ให้โพสต์หนังสือที่ชื่นชอบโดยไม่คอมเมนท์ ไม่รีวิว
และวันนี้ขอเชิญ ...........มาต่ออีกสักคน 7 วันแค่วันละเล่มค่ะ

นานแล้วที่ไม่ได้ challenge ใครด้านการอ่าน จนเมื่อได้รับคำเชิญ ก็ต้องร่วมสนุกกันหน่อย 

ว่าแล้วก็คัดหนังสือมาได้ 7 เล่ม / 7 วัน ดังนี้ 



3 events in a day!



เมื่อวานเป็นวันเดินสาย 3 events ทำไมถึงได้งาน(ฟรี)ชุกเช่นนี้ มาติดตามชีวิต celeb กัน อิๆ 

เช้าสายบุญ
-นำนิสิตจิตอาสา 10 คน เอกภาษาจีนและแอน เอกอังกฤษ มาเรียนรู้วิถีพุทธและทำดอกไม้จันทน์ให้ผู้ป่วยศพยากไร้ และวันรุ่งขึ้นมาช่วยกันขุดดิน ปรับพื้นที่เพื่อเตรียมปลูกดอกทานตะวันให้ทันช่วงเข้าพรรษาปีนี้ 
กิจกรรมที่นี่มีเยอะมาก ทั้งการฟังเทศน์ที่ช่างเข้าถึงวัยรุ่น และหากมาถูกช่วง อาจจะได้ฝึกการทำยาหม่อง เหรียญโปรยทาน และทำขนมอีกด้วย 
ที่ดีที่สุดคือการได้สัมภาษณ์ภิกษุณี สามเณรี แม่ชี ที่ล้วนใจดีและให้ข้อคิดดีๆติดสมองกลับบ้าน
นับเป็นการหาความสงบทางใจใกล้ๆบ้าน และเหมาะกับวัยนิสิต ก่อนจะจบการศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมสู่การทำงานได้ดีทีเดียว
ณ ทิพยสถานธรรม ภิกษุณีอาราม ต.เกาะยอ อ.เมือง สงขลา ใกล้ๆบ้าน 




บ่ายสายบันเทิง
-ติดตาม Ms.Grand International ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆในสงขลา เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว Amazing Thailand





ค่ำสายปาร์ตี้
- งานอำลานิสิตปี 4 ของเอกอังกฤษ Eng.major farewell party 2018(และให้กำลังใจทีมทำงานนิสิตที่ปรึกษาปี 3) แต่ละคนแต่งหน้า จัดเต็ม อย่างไม่ยอมน้อยหน้ากัน ใน theme: black pearl ซึ่งไม่รู้ว่า pearl อยู่ที่ไหน เพราะทุกคนแต่งกันมาแค่ชุด black เท่านั้น 

ขอให้นิสิตโชคดี มีความสุขกับก้าวใหม่สู่วัยทำงาน 
ขอให้พร้อมเรียนรู้การทำงานใหม่ มานะ อดทน ตั้งใจ ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลค่ะ 





วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561

ปีใหม่ใกล้บ้าน(มาก)









เป็นชาวเกาะ ก็ต้องโปรโมทเกาะตัวเองสักหน่อย

เกาะยอมีที่เที่ยวทั้งทางธรรมชาติ street art (มาใหม่) และ landmark อย่างรูปปั้นปลากระพงที่มี 3 ชนคนไทย-พุทธมุสลิม - จีน มาช่วยกันลากดึง เชื่อมความสามัคคี เพื่อจะบอกว่าพวกเราอยู่ร่วมกันได้ในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสงบนะจ๊ะเธอ
ในภาพก็มี 3 ชนชาติกับเขาด้วยเหมือนกัน นิสิตชาวจีน 6 / อเมริกัน 1 / ไทยอีก 1


วัดท้ายยอซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของตำบล ด้านหลังวัดมีทางเดินขึ้นเขาเพื่อไปสักการะเจดีย์เขาเพหาร เราก็พานิสิตจีนไปเดินขึ้นมาแล้ว ออกกำลังกายเบาๆ



แล้วก็ลงมานั่งหย่อนใจริมน้ำ ดูเรือประมง รับลมเย็นๆ 
จบทริปครึ่งวันและวันหยุด ก่อนเข้าสู่โหมดทำงานกันต่อไป

2.1.2561