วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

เรื่องเล่าชาวอาสา: อาสา(ไม่)สมัคร (เล่น)

ประกาศๆ

มาทำอะไรสนุกๆกันค่ะ
โครงการส่งเรียงความหรือเรื่องเล่าจากประสบการณ์อาสาสมัครของพวกเรา ร่วมชิงรางวัล
นิสิตหลายคนเขียนได้ดีมากนะคะ เวลาที่เราทำงานอาสาแต่ละครั้งกับครู ลองส่งกันดูค่ะ

Deadline: 30/9/60

---------------


หลังจากเห็นประกาศ "กิจกรรมอาสา(ไม่)สมัคร(เล่น) เราก็ตื่นเต้นขึ้นมาโดยพลัน 55 เรียงความครั้งก่อนที่ส่งไป LACTASOY " เขียนด้วยมือ สื่อถึงใจ ให้แม่อ่าน " ยังไม่ได้รับของที่ระลึกกลับมา ก็มีประกวดเรียงความครั้งใหม่ตรงใจ ให้เราได้ลอง อิๆ 

-------------
หากให้นึกถึงงานอาสาที่เคยไปเข้าร่วมมา ค่ายที่เราจดจำมากๆค่ายหนึ่งก็คือ Art for All ค่ายศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงวันหยุดเดือนกค. 

สิ่งที่ได้เรียนรู้อย่างที่สุดจากค่ายนี้คือการก้าวข้ามกีดจำกัดทุกอย่าง ผู้ที่มาร่วมค่ายจะเป็นนร.ทุกวัยที่ขาดโอกาสบางด้านในชีวิต มีน้องๆที่พิการแขนขา ตาบอด ต้องนั่ง wheelchair หรือเป็นเด็กพิเศษ ทุกคนจะมาอยู่รวมกันที่นี่ 1 สัปดาห์ ร่วมกับนร.ที่มีความปกติทางร่่างกายทุกอย่าง และมีพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม รวมทั้งจิตอาสาที่สมัครเข้ามาเพื่อช่วยให้งานนี้สำเร็จลุล่วง

ก้าวข้ามขีดจำกัด:อายุ

อาสาสมัครรุ่นใหญ่ ใจอาสา

 

เราทำงานอาสามาก็หลายปี น้อยครั้งมากที่เราจะเห็นคนทุกเพศ วัย อายุ มาทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่หากใครได้มาค่าย Art for All จะได้เห็นภาพเหล่านี้ ภาพที่คนรุ่นป้า รุ่นลุง เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เราทำงานฝ่ายลงทะเบียนร่วมกับป้าตุ๊ก ป้าวัน วัยเกษียณ เราได้เรียนรู้จากป้าๆและเห็นตัวอย่างที่ดีของการที่คนรุ่นใหญ่มาทำงานอย่างแข็งขัน ไม่แพ้วัยรุ่น จิตอาสาของป้าๆมีเปี่ยมล้นพอๆหรืออาจจะมากกว่าบางคน

เมื่อคุยกันไประหว่างพักทำงาน เรานึกทึ่งที่ป้าตุ๊กทำงานกับสมาคมคนตาบอดมาก่อน และมาคราวนี้ก็ชักชวนหลานมาทำงานค่ายด้วยกัน
ในขณะที่ป้าตุ๊กมาช่วยงานเป็นปีที่สองแล้ว ส่วนป้าวันเพิ่งเกษียณเมื่อ 2 ปีก่อนจากการทำงานฝ่ายบุคคลของคณะสัตวแพทย์ จุฬา
ป้าวันเข้าร่วมค่ายเป็นอาสาสมัครครั้งแรกโดยผ่าน”ธนาคารจิตอาสา” แต่ประสบการณ์ป้าวันโชกโชนมากทั้งเคยเป็นอาสาสมัครสร้างบ้านดินโดยไปอยู่เป็นเดือนๆที่ต่างจังหวัด และเสร็จจากกิจกรรมนี้ป้าก็จะไปเป็นอาสา”โครงการต่างใจไทยเดียว” เพื่อเป็นอาสา”รับฟัง” อีก (อาสาสมัครจะมีหน้าที่รับฟังคนที่มีปัญหาที่จะมาพูดคุยเล่าปัญหาของตนเองให้ฟัง โดยเหล่าอาสาจะคอยรับฟัง เพราะเชื่อว่าคนที่เข้ามาไม่ได้ต้องการให้แก้ปัญหาให้ แต่อยากแค่มีคนคอยรับฟัง

ขอปรบมือให้กับป้า สุดยอดมากเลย กลับจากงานนี้ ตอนเย็นเข้าไปแล้ว  รุ่งขึ้นป้าก็ลุยงานใหม่ต่อทันที ป้าบอกว่าทำให้ชีวิตมีอะไรดีๆทำ อย่าคิดว่าทั้งสองป้าไม่มีครอบครัวนะคะ ป้าวันมีลูกสองคน แต่จะเจอลูกๆเสาร์อาทิตย์ เลยใช้เวลาวันธรรมดาเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ ส่วนป้าตุ๊กก็มีลูกชายกำลังเข้ามหาวิทยาลัย





ป้าๆ เยี่ยมยอดที่สุด ในวัยหลังเกษียณหากใช้ชีวิตไปวันๆ มันคงเหงาๆ เฉาๆ แต่ป้าทั้งสองเลือกที่จะทำประโยชน์แก่สังคม ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า การได้คุยกับป้าๆทำให้เราชื่นใจและศรัทธาความเป็นจิตอาสาตัวจริงของท่าน เพราะเราไม่ค่อยเห็นอาสาสมัครรุ่นใหญ่ทำงานสักเท่าไหร่ บางคนวัยหลังเกษียณใช้เวลาเลี้ยงหลาน อยู่บ้าน ซึ่งเราว่ามันเฉามากๆ ไม่เหมือนกับอาสาสมัครที่อเมริกา ที่คนวัยเกษียณมักใช้เวลาไปในการทำประโยชน์ ใช้ชีวิตอย่าง active citizen

ไม่ว่าจะเป็น Star ที่เป็น host ให้พวกเราชาวHumphrey fellow และยังรับเป็น host family ให้นศ.คนอื่นๆที่ Penn State ทำให้นักเรียนต่างชาติไม่คิดถึงบ้าน เมื่อมีครอบครัวดีๆคอยดูแล ชวนไปกินข้าวและพาเที่ยวใกล้ๆ ส่วน Susan ก็เป็น host family ให้เราและทำงานอาสาด้าน gardening ให้กับคนชราที่ศูนย์ดูแลคนชรา Center Crest ที่เราติดตามเธอไปร่วมด้วยช่วยกัน


Cathy Phelp รับอาสาเป็น English Conversation partner ให้เรา (ที่มหาลัย Penn State Uni.ที่เราไปเรียนมีโครงการดีๆให้นศ.ต่างชาติที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษสมัครหา partner โดยแผนก Global Connection ของมหาลัยจะพยายามเลือกคนที่มีคุณสมบัติคล้ายกันมาเป็นคู่สนทนา) หรือคุณ Bill ที่คอยช่วยเหลือจัดโครงการให้นศ.ต่างชาติทำทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการจัดทัวร์ หรือหาอาสาสมัครต่างชาติไปช่วยขาย hotdog /hamburger / drinks ที่สนามกีฬาของมหาลัย


กิจกรรมเหล่านี้ทั้งอาสาสมัครอเมริกันและไทยทำให้เรารู้สึกว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคในการบำเพ็ญประโยชน์ หรืออีกนัยหนึ่งพวกเขาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของอายุไปแล้ว




Art for All เลยเป็น Heart for All สำหรับเราด้วยประการฉะนี้ ทุกคนมาทำกันด้วยใจจริงๆ ที่ขาดไม่ได้คือคณะทีมงานที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำมาหลายเดือนเพื่อให้งานครั้งนี้ออกมาดี เพราะแม้ว่างานจะจัดมาเป็นครั้งที่ 18 แล้วแต่การที่มีอาสาสมัครหน้าใหม่และเยาวชนใหม่ๆมาร่วมค่าย นั่นหมายถึงว่าอะไรที่ไม่คาดคิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้ มีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้ไขกันตลอดเวลา   

Art for All ค่ายดีที่ควรยกย่องและบอกต่อค่ะ 





You can't help getting older, but you don't have to get old. (อายุเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องแก่ไปตามอายุ)

                                                                                                               George Burns

วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560

บทกวีถึงพ่อหลวง : โครงการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์



ดอกไม้ให้พ่อ
ธ ทรงเป็นน้ำฝนหล่นจากฟ้า                                               ธ ทรงเป็นคุณค่าน่านับถือ
ธ ทรงเป็นแบบอย่างต่างเลื่องลือ                                                       ธ ทรงเป็นแทนชื่อคือแผ่นดิน
ณ วันนี้ที่ท่านไม่อยู่แล้ว                                                                    ความเพริศแพร้วของแผ่นดินสงบสิ้น
เหลือเพียงสิ่งเหลือเพียงชื่อคู่แผ่นดิน                                                 อยากได้ยินมิอยากชินความห่างไกล
ถึงวันนี้ทำหน้าที่คนดีสร้าง                                                                เพื่อก่อร่างสร้างผลอันสดใส
พับดอกไม้ตัดแต่งแต้มกิ่งใบ                                                             จุดแทนใจให้พระองค์ทรงพระเจริญ...



                จากบทกลอนข้างต้นดิฉันเขียนกลั่นจากหัวใจด้วยความรักและศรัทธาที่มีต่อพ่อหลวงรัชการที่ 9 กิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ที่คณะมนุษยศาสตร์ ฯได้จัดขึ้นในวันพุธที่ 30 สิงหาคม 60 นั้น  ทำให้นิสิตทุกคณะทุกสาขาวิชาสามารถร่วมกิจกรรมได้  ดิฉันเล็งเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นมากมายอย่างยิ่ง อาทิเช่น ทำให้เกิดมิตรภาพแก่กลุ่มนิสิต  การประดิษฐ์ดอกไม้เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดจึงเป็นการฝึกสมาธิให้แก่นิสิตไปในตัว  และที่สำคัญเป็นการช่องทางให้นิสิตทุกคนสามารถตอบแทนคุณพ่อหลวงได้  ก
ารประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ในวันนั้นก่อเกิดความคิดให้ดิฉันในหลาย ๆ แง่  ทั้งสัจธรรมของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์  ความรัก ความภักดีที่ประชาชนคนไทยมีมอบให้แก่ประองค์  และที่สำคัญคือ เข้าใจมองเห็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนพูดกันว่า “คนเราไม่ว่าจะอยู่ชนชั้นใดก็ตาม  เมื่อตายไปก็เป็นเพียงแค่เศษธุลีเท่านั้น  เว้นเสียจากความดี ความเมตตา  ความจริงใจที่เราเคยทำไว้ในแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่  อาจกล่าวสั้น ๆ ได้ว่า อยู่ให้เขาไว้ใจ  ไปให้เขาคิดถึง”  

วันนี้ฉันเข้าใจแล้ว  วันนี้ฉันมองเห็นคำพูดที่ว่านั้นจริง ๆ แล้ว  พ่อหลวงของเราท่านเป็นแบบอย่างให้เราทุกเรื่อง
จริง ๆ ท่านสอนโดยการทำให้ดู มากกว่าคำพูดสวยหรูที่ไม่เคยทำ  ท่านคือสิ่งเดียวที่ทำให้คนต่างชาติ  ต่างศาสนา  ต่างภาษา  ต่างความคิด  รัก ช่วย เหลือ ภักดี  ศรัทธา ในสิ่งเดียวกัน  บางคนมองว่าท่านคือ เทพเจ้า  มองว่าท่านคือเทวดา  มองว่าท่านเป็นหลากหลายอย่าง  แต่แท้จริงท่านเป็นคนธรรมดาที่เสียสละ  เหนื่อย  อดทน  ขยัน  ตั้งใจมากกว่าคนปกติเท่านั้นเอง


วันนี้พ่อไม่อยู่แล้วนะ  คนไทยต้องเรากันสามัคคีกันให้พ่อเห็น  ถึงเวลาแล้วที่พ่อจะได้พัก ถึงเวลาแล้วที่พ่อจะเป็นผู้มอง มองดูคนไทยนะคะพ่อ คนไทยทุกคนจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง  ดอกไม้จันทน์ที่ลูกทำจะเป็นเปลวไฟเล็ก ๆ ที่จะส่งพ่อขึ้นสู่สวรรคาลัย






วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

Life of Pi: Life of mine as an organizer for movie program




คิดๆๆ หลังจากเทอม 1/60 เราจะจัดโครงการเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านแผ่นฟิล์ม จะใช้เรื่องอะไรดี
เรื่องแรก เมื่อ พ.13 กย.60 คือ Children of Heaven เด็กน้อยจากสรวงสวรรค์ หนังอิหร่านเรื่องเยี่ยม ที่เรามักจะแนะนำให้ใครๆดู หลังจากที่เคยดูเมื่อสัก 2 ปีก่อน ตอนที่เข้าหอประชุม แล้วมีวิทยากรตัดบางตอนมาให้ดู เลยต้องรีบหามาดูต่อ เรื่องราวของพี่น้องฐานะยากจน ที่ต้องผลัดกันใช้รองเท้าที่มีเพียงคู่เดียวไปโรงเรียน พี่ชายเลยคิดที่จะวิ่งแข่งเพื่อชิงรางวัลที่ 2 (รองเท้า) ใครอยากรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง อย่าลืมหามาดูกันนะคะ

เรื่องที่ 2 หลังจากคิดๆ และตอนแรกคิดว่าจะฉายหนังแค่ 2 ครั้ง / เดือน แต่เรียกว่าโครงการนี้มีเสียงตอบรับถล่มทลาย นิสิตสมัครกันเยอะมาก  ล
ชื่อเข้าดู 256 คน เราเลยจัดฉายหนังอีก 1 เรื่อง คือห้อง 13218 (จากเดิมที่จะฉายแค่ห้อง 13315)

 ฮ่าๆ แต่ก็ตามประสานิสิตที่ลงชื่อแล้วไม่จริงจังกับ commitment ซึ่งก็ไม่ว่ากัน  มีคนมาดูจริง 162 คน

เราค้นๆดูหนังที่มีอยู่ใน stock ก็ยังไม่เจอเรื่องถูกใจ จนนึกขึ้นมาได้ว่าเคยขอหนังของเจมส์เอาไว้เยอะเลย



สุดท้ายก็ได้เรื่องนี้ LIFE OF PI (2012) กำกับการแสดงโดย Ang Lee ผู้กำกับการแสดงชาวไต้หวัน ที่แค่ชื่อก็การันตีว่าหนังต้องน่าดูแน่ๆ และไม่น่าเชื่อว่า Ang Lee กำกับมาหลายแนวมาก บางเรื่องเราเพิ่งรู้เมื่อดูคลิปที่สัมภาษณ์เค้า เช่น เรื่อง Sense & Sensibility   / Crouching Tiger, Hidden Dragon แถมยังมีเรื่อง Broke Back Mountain หนังเกย์ที่โด่งดัง ได้รับรางวัลออสการ์อีกต่างหาก ( เรื่อง LIFE OF PI เค้าได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยนะ ชนะ Steven Spielberg อีกตังหาก สุดยอดจริงๆ)

Life Of Pi เป็นเรื่องที่เราได้ยินชื่อ และได้ยินคนพูดถึงมานานแล้ว แต่ก็คิดว่ายังไม่ใช่แนวตัวเองมาก เรารู้ว่าวันนึงเราจะดูเรื่องนี้ แต่ก็ต้องมีอารมณ์ที่จะดูก่อน 55 ประมาณอารมณ์ศิลปิน ;)



เสาร์ 9/9/60 เรากับนิสิตไปหาน้องๆที่บ้านโสสะ เราเห็นหนังสือเรื่องนี้มีคนเอามาบริจาคเอาไว้ เลยหยิบมาอ่าน จริงๆแล้วกะว่าจะอ่านหนังสือให้จบก่อนแล้วค่อยดูหนัง แต่ตอนนี้อ่านได้บทที่ 4 เอง ( 55 ไม่รู้ว่าเมื่อดูหนังไปแล้ว จะขี้เกียจอ่านซะอีกไหม อ่ะนะ นิสัยคนเรา ;) เราชอบอ่านนิยายก่อนดูหนังนะ เรารู้สึกว่ามันได้เปรียบเทียบ และได้อรรถรส รวมทั้งจะได้เข้าใจเรื่องได้เร็วขึ้น

โอ้ว... แต่หนังมันดีมากๆ จนแอบคิดว่าหนังสือมันบรรยายได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

เมื่อจะฉายหนังเรื่องนี้และต้องตั้งคำถามในใบงาน เราเลยใช้เวลาวันอาทิตย์ 17/9/60 หลังสอนอังกฤษ 3 เสร็จ ช่วงบ่ายมานั่งดู

"ทำไมเพิ่งจะมาดูเรื่องนี้เนี่ย !" มันดีมากๆ ในวัยเราที่การดูหนังปรัชญาไม่ใช่เรื่องยากมาก และการดูหนังที่เอื่อยเฉื่อย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนุก หนังที่ให้แง่คิดแบบนี้ควรที่จะได้รับการบอกต่อมากๆ

ดูเรื่องนี้แล้วฟังตัวละครเอก Pi พูด นึกถึงเพื่อนๆชาวอินเดียเลยทีเดียว คนแต่ละชาตินี่เมื่อได้ยินสำเนียง มันรู้กันได้เลยเนอะว่ามาจากประเทศไทย ดูเรื่องนี้ หากส่ายคอดุ๊กดิ๊กไปด้วย จะดูอินเดียมากๆ อิๆ



Possible questions


1. ให้นิสิตเปรียบเทียบวัฒนธรรมอินเดียกับวัฒนธรรมไทย ( การกิน ความเชื่อ ศาสนา การเป็นมังสะวิรัติ)
2.  นิสิตคิดอย่างไรกับการที่ Pi นับถือ 3 ศาสนา ในเวลาเดียวกัน
3.  นิสิตคิดว่าการนับถือศาสนาหรือพระเจ้ามีผลกับชีวิตของ Pi ในแง่ใดบ้าง
4.  ทักษะใดที่นิสิตคิดว่าจำเป็นในการเอาตัวรอดในสถานการณ์เรือแตกและต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง
5.  นิสิตเรียนรู้เรื่องศาสนาอย่างไรบ้างจากเรื่อง
6. Pi ใช้วิธีไหนในการฝึกเสือเบงกอล
7.  หากนิสิตเรือแตก และต้องใช้ชีวิตคนเดียวกับสัตว์ 1 ตัว นิสิตจะเลือกสัตว์อะไร เพราะอะไร
8.  ชีวิตของ Pi ช่วงใดที่นิสิตชอบมากที่สุด เพราะอะไร
10. การมีเสืออยู่ด้วยในช่วงเรือแตก ช่วย Pi ในเรื่องใด ทำไมนิสิตคิดเช่นนั้น
12. นิสิตคิดว่าทำไม Pi ต้องการเขียนไดอารี่ การเขียนไดอารี่ช่วย Pi เรื่องใดได้บ้าง
13. ในประเทศไทย คนส่วนใหญ่ทานเนื้อสัตว์เป็นอาหาร นิสิตคิดว่าการที่ชาวอินเดียส่วนใหญ่กินมังสะวิรัติ มีข้อดีอย่างไร นิสิตเคยคิดจะกินมังสะวิรัติหรือไม่ เพราะอะไร
14.  หากวันหนึ่งนิสิตสูญเสียคนที่ตนรัก นิสิตมีวิธีจัดการเรื่องความเศร้านี้อย่างไร
15.  ศาสนามีส่วนช่วย Pi อย่างไรบ้าง
16.  นิสิตเชื่อเรื่องที่ Pi เล่าหรือไม่ เพราะอะไร






26/10/2562 เมื่อเพื่อนมาช่วยตอบและวิเคราะห์บุคลิกภาพจากการตอบเรื่อง Life of Pi

มอนตอบ:
Q7 หากเรือแตกและต้องใช้ชีวิตคนเดียวกับสัตว์ 1 ตัว จะเลือกสัตว์อะไร เพราะอะไร วิเคราะห์ คำตอบ (นก) ans. น่าจะเป็นหมา นกว่าหมามันทำให้เจ้าของรู้สึกว่าเป็นที่รัก เจ้าของจะไม่เหงา และหมาชอบเล่นกับเจ้าของ เวลางูมา หมาน่าจะเห่าให้รู้ตัว 》》》 ตอบจากตีความหมายคำถามว่าหากต้องอยู่คนเดียว จะเลือกคนบุคลิกแบบไหนมาอยู่เป็นเพื่อน - อยากให้มีคนที่รักมาอยู่ด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเหงา ดูแลตัวเองได้ แต่อยากให้มีใครสักคนอยู่ด้วยให้อุ่นใจหรือเป็นที่ปรึกษา เรา ans. เลือกม้านิลมังกรครับ เพราะผมคิดว่า ผมน่าจะดึงศักยภาพของม้านิลมังกรออกมาใช้ได้มากกว่าสุดสาคร เช่น ย้อนอดีต ทะลุอนาคต ตลุยจักรวาลครับ 》》》 ตอบจากตีความหมายคำถามว่า เรือแตก ต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง รอให้ใครมาช่วยเหลือไม่ได้ - link ไปสู่ชีวิตจริงที่ต้องทำอะไรเอง ไม่ชอบรอใคร ใครๆ ก็ทำให้ไม่ถูกใจ และไม่ใส่ใจเรื่องการต้องอยู่คนเดียว

นกต่อ:


Q.7 เพราะต้องเลือกสัตว์ นกเลยต้องเลือกสักอย่าง เมื่อมีอีกสักตัวมาอยู่ด้วย พอให้อุ่นใจ แต่หากพูดถึงความสัมพันธ์หญิง-ชาย นกชอบความสัมพันธ์มีระยะห่าง ไม่ต้องอยู่ใกล้กัน ต่างคนจะทำอะไรก็ทำ มีพื้นที่ของตัวเอง สนุกกับพื้นที่ของตัวเอง เมื่อว่างค่อยมาเจอกัน (อันนี้โยงไปถึงความสัมพันธ์กับแฟนคนแรกที่ไปทำงานเวียดนาม พอห่างกัน ก็เฉยๆต่อกัน เลยเลิกกัน )



มอนต่อ:
Q8 ชีวิตของ pi ช่วงใดที่ชอบมากที่สุดเพราะอะไร คำถามนี้คนตอบจะ link ตัวเองเข้าสู่ฉากในหนัง หรือ link ฉากในหนังสู่เรื่องของตัวเอง แบบ เหมือนฉันเป๊ะเลย นก ans. ฉากที่ชอบมากที่สุด น่าจะเป็นฉากที่ Pi หนีเสือลงมาอยู่ในน้ำ และเริ่มหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกับเสือด้วยกันให้ได้ นกว่าพอจนตรอก แม้จะรู้ว่าอันตราย แต่ก็ต้องหาทางออก เพื่อให้รอดชีวิตต่อไป 》》》 เราว่า (ใช้คำได้ดี ป้องกันความเสี่ยง เผื่อผิด) เกี่ยวกับการเป็นนักผจญภัยของนกโดยตรงเลย เริ่มด้วยความกลัว กังวล ไม่มั่นใจ สุดท้าย happy & proud เรา ans. ชอบตอนที่ pi คอตกทำตาละห้อย มองเสือเดินห่างออกไป ห่างออกไป pi คงคิดในใจ ล้อเล่นป่าว เห้ยไอ้เสือ กลับมาได้แล้ว 》》》 เราปลงและวางกับหลายอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต ประมาณ เข้าใจเรื่อง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ฉากนี้ครั้งแรกที่เราดู เรายิ้มแล้วรอดูแค่ว่าเสือจะลับตาหรือจะ u turn โดยไม่ได้เลือก choice ในใจ


วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

สอนแม่ทำดอกไม้จันทน์!







การได้ทำดอกไม้จันทน์เป็นเรื่องที่ดีมากเลย จากที่ไม่รู้วิธีทำก็ได้เพื่อนๆ ครูอาจารย์มาสอน มาบอกด้วยความสนุกสนานที่ได้ทำกับเพื่อนๆของเราและทำด้วยจิตใจที่อยากทำ เพื่อถวายพ่อหลวงของเรา ถึงบางอันที่ทำจะไม่สวยเหมือนคนอื่นๆ แต่เราก็ภูมิใจแล้ว เพราะในวันที่ทำเราได้เพื่อนใหม่ๆ ที่คอยบอกวิธีทำให้เรา

ตอนมีกิจกรรมเราทำด้วยความสมัครใจและภูมิใจในตนเองมากที่ได้ทำดอกไม้จันทน์ รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ คุณครูก็ใจดีมาก คุยสนุกและให้ความรู้ ถ้ามีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆแบบนี้อีกจะชวนเพื่อนๆมาร่วมทำให้มากๆเลย เชื่อว่าทุกคนจะชอบกิจกรรมแบบนี้ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปสอนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้อีกมากมาย การทำดอกไม้จันทน์ยังทำให้เราไม่ใจร้อน และทำด้วยความปราณี ทำให้จิตใจงาม



ตอนนี้ได้นำความรู้ไปสอนแม่แล้ว แม่ดีใจมากๆ เพราะจะได้ทำไปถวายพ่อหลวงและสิ่งที่สอนให้แม่ไป แม่คงนำความรู้จากเราไปสอนคนอื่นๆในหมู่บ้าน เพื่อนำไปใช้ต่อไป เชื่อว่าคนไทยทุกคนตอนนี้คงอยากทำดอกไม้จันทน์

นายสิรภพ ปี 3 เอกภาษาญี่ปุ่น

Wed. 13/9/17 @ R. 13532