วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เยือนเมืองเก่าเล่าความหลัง: ตะกั่วป่า พังงา



เยือนเมืองเก่าตะกั่วป่า พังงา

"เมืองประวัติศาสตร์ พระศรีบรมธาตุโบราณ ตระการทิวทัศน์ หลายวัดศักดิ์สิทธิ์ ทุกทิศไมตรี รสดีของกิน ถือศีลทรงธรรม"

เพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่าตะกั่วป่าเคยเป็นจังหวัดมาก่อน เนื่องจากเมื่อก่อนอุดมไปด้วยเหมืองแร่ (ดังชื่อของอำเภอ "ตะกั่วป่า" (และพังงายังมีอำเภอ"ตะกั่วทุ่ง" อีกด้วย)

เรายืมหมวกใบลานของย่าฟ้ามากันแดดและประกอบฉาก กะทำเป็น prop ให้เข้ากับสถานที่ ฮี่ๆ (เรื่องแบบนี้การเตรียมพร้อมต้องเริ่ดไว้ก่อน หมวกใบเดียวเอาอยู่)

โจ๊ก ฟ้า นา เรา พร้อมเดินทางกันแล้ว

ไปกันเลย!





ย่านถนนสายวัฒนธรรมของตะกั่วป่าในเช้าวันเสาร์ดูบรรยากาศเงียบๆ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการมาถ่ายรูป เอ๊ย มาศึกษาเส้นทางวัฒนธรรม แฮ่ม... วันที่ 10/11/56 จะมีงาน "เยือนเมืองเก่า เล่าความหลัง" ด้วยล่ะ เสียดายมาซะล่วงหน้าแล้ว งั้นก็เดินชมย่านนี้ไปพลางๆ

ฝาบ้านของหลายบ้านเก่ามาก มันคล้ายๆกับถนนนางงาม สงขลา ทีกำแพงบ้านแบบนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนรักการถ่ายรูป มักจะมายืนแอ๊คกันทั้งว่าที่บัณฑิตและคู่บ่าวสาว pre-wedding



ส่วนเราก็ถ่ายคล้ายๆกับ pre-wedding และคงเป็น pre ได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น wedding หรือ post-wedding ได้ อิๆ งั้นขอเอาบรรยากาศก็แล้วกันนะ










สไตล์บ้านเก่าแถวนี้เป็นแบบชิโน-โปรตุกีส (ที่ไหนมีการค้าขายที่นั่นมีคนจีน) บ้านจีนๆเลยเป็นแบบมี "หงอคาขี่" หรือโค้งทางเดินหน้าบ้านเชื่อมกันไปหมด ที่ผู้เดินผ่านได้อาศัยร่มเงาเดิน ข้อดีคือ เนื่องจากมันไม่พลุกพล่านเลยไม่เห็นของวางขายเต็มพื้นที่ไปหมดเหมือนถนนนางงามของสงขลา ที่คนสัญจรไปมาไม่สามารถเดินแถวหน้าบ้านของผู้พักอาศัยในย่านนี้ได้เพราะไม่มีที่ทางให้เดินเหมือนที่นี่

สรุปว่าถึงจะเป็นย่านคนจีนเหมือนกัน แต่อยู่ต่างถิ่น ต่างภูมิศาสตร์ สไตล์ของการใช้ชีวิตก็จะต่างกันไปนะเนี่ย







ความแปลกของวัฒนธรรมที่นี่อีกอย่างคือ การประกาศเรื่องงานศพ คนที่นี่เค้าติดป้ายกำหนดการงานศพไว้ที่กำแพงตรงสี่แยก กะว่าคนผ่านไปผ่านมาเยอะก็จะได้เห็นและจะได้ไปร่วมงาน



โอ้ว...ส่วนที่เด็ดสุดคือติดป้ายกำหนดงานศพที่รถกระบะ เพื่อเวลาขับรถไปไหนๆคนจะได้รับรู้ (คิดได้ไงเนี่ย) โดยทั่วไปเราจะเห็นข้างรถเป็นการโฆษณาสินค้า ยังไม่เคยเห็นคน(สงขลา)ทำแบบนี้มาก่อน เป็นการคิดนอกกรอบที่หลุดกรอบกันไปเลยทีเดียวเชียว ( Thailand Only)


มาเป็นดีเจที่ตะกั่วป่า






"ดีเจเสียงใสๆ คุณนั้นเป็นใคร ในใจฉันอยากรู้"

แว่บงานหลักไปเป็นดีเจที่สวท.ตะกั่วป่า พังงา คนไม่รู้จักชื่อเพลงและไม่นิยมเพลงร๊อคอย่างเราก็สามารถเป็นดีเจได้แบบเนียนๆเพราะมีลูกศิษย์ทำงานที่นั่น

อืม...เมื่อไหร่จะมีลูกศิษย์เข้าวงการบันเทิง เราจะได้กระทบไหล่ดารา ฮี่ๆ

ที่นี่มีเครื่องเตือนสึนามิด้วยนะ มันจะทำงานตอนเกิดเหตุ และมีเจ้าหน้าที่มาตรวจว่ามันใช้งาน
ได้มั๊ยอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 2 ครั้ง


----------------------------

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

3 ซ่า ฮา ออนเดอะโร๊ด



กิจกรรมที่หาดใหญ่-สงขลา มีบ่อยมาก เมื่อวานเพิ่งจะไปดูทอล์คโชว์ 3 ซ่า ฮา ออนเดอะโร๊ด แก๊งค์สามซ่าประกอบด้วย
ตุ๊กกี้ โก๊ะตี๋ กาละแมร์ และอ๋อม อรรคพันธ์ ดารารับเชิญ ซึ่งออกมาขโมย scene แก๊งค์สามซ่ามาก เสียงกรี๊ดสนั่นกับความหล่อทั้งในจอและนอกจอของอ๋อม (ขอกรี๊ดดังๆด้วยคน) 



ค่าบัตร 300 บาทของ แก๊งค์สามซ่าถูกมากเมื่อเทียบกับการทุ่มทุนสร้างของ Toyota CSR ทอล์คโชว์ใช้เวลาถึง 2.30 ชั่วโมง จาก 3.15 – 5.45 . ซึ่งนอกจากจะได้ฮากันแล้วก็สอดแทรกด้วยเรื่องการขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนนและความมีน้ำใจของคนใช้ถนน เรียกว่ามีทั้งความฮาและสาระกันเลยทีเดียว แถมรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายก็จะเข้ามูลนิธิ Thai Road เพื่อรณรงค์การใช้รถใช้ถนนอย่างมีน้ำใจอีกด้วย

อ่านสถิติการตายอย่างไม่เป็นธรรมชาติของคนไทยบนท้องถนน ซึ่งติดอันดับ 3 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ใน Southeast Asia แล้วก็ใจหาย สถิติติดอันดับโลกแบบนี้รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น เพราะมันแสดงถึงความไม่มีน้ำใจของคนในประเทศกำลังพัฒนา (หากมีน้ำใจ อุบัติเหตุจะน้อยลงมาก)




ฮากันปวดแก้ม ด้วยความขำกับมุขของทั้งสามคน ซึ่งเราน่ะเปิดดูใน Youtube แล้วด้วย เพื่อดูว่าทอล์คโชว์ครั้งก่อนๆที่ขอนแก่น และเชียงใหม่ เป็นยังไง แต่ก็ดูประมาณ 5 นาที (ไม่อยากดูนาน เดี๋ยวจะเสียอรรถรส อิๆ)

เพิ่งเข้าใจว่าการได้ดูอะไรสดๆแบบนี้มันสนุกกว่านั่งดูจากหน้าจอคอมฯ หรือทีวี เพราะความรู้สึกมันจะสดกว่ากันมาก
นั่งดูไปขำไปและก็นึกชมความสามารถแบบมืออาชีพของทั้ง 4 คน เพราะรอบภาคใต้ เป็นรอบสุดท้าย นั่นหมายถึงแสดงมาแล้ว 3 รอบ มันก็จะซ้ำๆเดิมๆ แต่จะทำยังไงให้คนดูขำและเชื่อไปกับสิ่งที่ตัวเองแสดง(เป็นรอบที่สี่) เราว่าเค้าคงจะเบื่อกันเลยทีเดียว แต่ทอล์คโชว์นี้มีดีที่ให้ผู้ชมจากฮอลล์ได้มีส่วนร่วม และนั่นถือเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และหาความฮาจากผู้ชมให้ได้



เมื่อโก๊ะตี๋เรียกให้คนดูสามคนขึ้นเวที เพื่อเต้นแข่งกันเพื่อชิงรางวัลจากอ๋อม กะเทยหาดใหญ่ก็ไม่แพ้ที่ไหน รีบขึ้นไปบนเวทีและแสดงออกแบบไม่อายฟ้าดินกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ ขำได้อีก

-------------------
โก๊ะตี๋: รู้มั๊ยว่าคนไทยชอบไฟอะไรมากที่สุด ไฟเขียว ไฟเหลือง ไฟแดง
กาละแมร์: ไฟเขียว
ตุ๊กกี้: ไฟเหลือง

โก๊ะตี๋: ใครบอก ไฟแดงต่างหาก
กาละแมร์ & ตุ๊กกี้: ???

โก๊ะตี๋: ก็พอเห็นไฟแดงเมื่อไหร่ ก็เห็นมีแต่คนหยุดดูมันทั้งนั้น แล้วแบบนี้จะไม่ชอบมันกว่าสีอื่นได้ไง 

อืม...ก็ถูกของเค้านะเนี่ย

----------------------------------------

ปล: ป้อง ไม่ได้มารอบจัดแสดงที่หาดใหญ่ แต่ไปที่กทม. และขอนแก่น

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

The Music of Clearly?




"ไปดูมาแล้ว The Concert of Clearly**"

เมื่อวานตอนเย็น (7/10/56) นั่งทำงานเรื่อยๆเพื่อรอเวลาดูคอนเสิร์ตแจ๊ซที่จัดที่ด้านหลังตึกดนตรี

จากโปสเตอร์บอกว่าเริ่มงาน 17.30 น. เรากับบูไปกันตอน 17.40 น. 

โอ้ว..ว่าแล้วว่าต้องมาเป็นคนแรกๆอีกแล้ว พวกเราเห็นแต่นิสิตเอกดุริยางซึ่งกำลังซ้อม เตรียมความพร้อม

กว่าจะได้เริ่มก็ปาเข้าไป 18.30 น.

นอกจากได้ฟังเพลงแจ๊ซแล้ว ความสนุกที่นอกเหนือจากการได้ฟังเพลงไพเราะๆแล้วก็ยังต้องยกนิ้วให้กับ
2 พิธีกรใจหญิง (เอ็มมี่และคำหล้า) ที่ปล่อยมุขกระจาย เช่น

(หลังจากขอบคุณสปอนเซอร์และอาจารย์แล้ว) 
เอ็มมี่:           "ขอขอบคุณสวนสัตว์สงขลา (เอ๊ะ เราคิดในใจสวนสัตว์ให้งบงานนี้ด้วยเหรอเนี่ย) ที่ส่งคำหล้ามา                    เป็นพิธีกรในครั้งนี้
คำหล้า (เธอไม่ยอม): " ขอบคุณฟาร์มโคพัทลุง (มามุขไหนเนี่ย) ที่ส่งเอ็มมี่มาในครั้งนี้ด้วยค่ะ" (เธอเน้นเสียง)

เพลงพระราชนิพนธ์ที่เอามาเล่นกัน นักร้องและนักดนตรีทำได้สุดยอดมาก ฟังแล้วได้อารมณ์ความขลัง


และขอบคุณสุดๆ คุณสันต์ แห่งสันต์ซาวด์ ที่เมื่อบูชมว่าเพลงที่เปิด(ระหว่างรอการแสดง)เพราะมากๆ เค้าเลยใจดีให้เอา thumb drive ไปเซฟเพลงร่วม 300 เพลง มีเพลงทุกประเภท!



อ๊ะฮ๊า...มาดูคอนเสิร์ตเพื่อความบันเทิงและได้ของติดมือ(เป็นเสียงเพลง)กลับบ้านด้วย คุ้ม

(สำหรับนิสิตที่เข้าดู มีการจับรางวัลเพื่อตอบแทนผู้ดูด้วยนะ)


----------


**หมายเหตุ:  งงว่าดนตรีใสๆที่พิธีกรบอกว่าเป็น theme ของงานคือเพลงเพื่อชีวิต พงศ์สิทธิ คัมภีร์ และรำวงเวียนครก เหรอ มันเพลงใต้ชัดๆ สงสัยเป็นเพลงสไตล์ตามใจผู้ร้อง 

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไปดูคอนเสิร์ต"โครตอินดี้"



It's been a long time that I've not watched a live concert off campus. The Music major in TSU is very well-known and every year there'll be a live concert on campus so I grab that opportunity to watch,enjoy the concert & support musicians. 
It's time to witness the alternative concert in Hatyai especially when the Jampoon Band led by PoPe, is one of 30 bands on Sat. 5 Oct 13.

ชาวสงขลา-หาดใหญ่ ใครว่างเสาร์นี้ไปดูคอนเสิร์ต "โครตอินดี้" กันค่ะ
หนึ่งในนั้นมี "วงจำปูน" รุ่นพี่มหาลัยทักษิณด้วยค่ะเพลงเค้าเพราะมากค่ะ ลองหาฟังกัน

5 ตค.56

บัตร 150 บ


----------
ข้อความข้างต้นเราเขียนไว้ใน FB ประหนึ่งว่าตื่นเต้นที่จะได้ไปดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้

และข้างล่างคือข้อความหลังจากงานคอนเสิร์ต "โครตอินดี้" ครั้งที่ 9 
------------

ไปดูคอนเสิร์ตโครตอินดี้ซึ่งดังมากๆ (คำว่าดังในที่นี้หมายถึงระดับเสียงเป็นเดซิเบล) และลากฮันนี่กับหนูนามาดูด้วยกัน

ส่วนใหญ่แต่ละวงร้องเพลงร็อค เสียงดังเข้าขั้นหนวกหู เนื่องจากเวทีทั้ง 3 วัน อยู่ห่างกันแค่เพียงเปิดประตูถึง 1 วงอยู่ในบริเวณหอประชุม สองวงเล็กเปิดประตูออกไปก็เจอทั้งด้านซ้าย-ขวา มันจะฟังกันรู้เรื่องได้ไงเนี่ย 

เอ๊ะ... หรือว่าเราหูไม่ถึง (เคยถามโป๊บแล้วว่ามันเป็นดนตรีแบบไหน เค้าบอกว่าร๊อคเป็นส่วนใหญ่ ใจก็ยังไม่ค่อยเชือเพราะคิดว่ามันน่าจะมีวงดนตรีสไตล์อื่นด้วย เช่นแนว Modern Dog ตามประสาชื่ออินดี้ ซึ่งหมายถึงวงดนตรีทางเลือก (เลือกให้ผู้ชมเองเสร็จสรรพ)

 เหตุที่เรามาเพราะจะมาเป็นหน้าม้าให้วงจำปูน  แต่เมื่อดูเวลา อ้าว แสดงตอนสามทุ่ม เลยขอตัว(กับหัว)กลับก่อน



สิ่งที่ดีที่สุดของการมาดูคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือ


1. ได้เจออ๊อดกับกิ่ง ซึ่งวิ่งมาจากไหนไม่รู้เข้ามาหาเรา (แน่ะเกือบจะได้บัตรฟรีจากอ๊อดด้วย) ทั้งสองคนเป็นแก๊งค์อาสาพัฒนาชนบท ที่เราสนิทมากๆเพราะร่วมค่าย กิน นอน กันบ่อย
(เนื่องจากกิ่งเคยเรียนอังกฤษกับเราเลยไม่แกล้งเรา ส่วนอ๊อดจะเกรงใจน้อยหน่อยเลยปฎิบัติต่อเรา(เกือบ)เหมือนเพื่อน

คิดถึงๆแก๊งค์อาสา (ยังมาไม่ครบทีม)


---------------------
2. ได้เล่นเกมส์และถ่ายรูปสวยๆ


อย่างน้อยก็มาไม่เสียเที่ยว เนื่องจากมีเกมส์ให้เล่น โดยการโยนลูกบอล 3 ลูกลงรู หากโยนลงก็จะได้เสื้อคอนเสิร์ต หากรอบแรกไม่ผ่าน ก็ยังได้รับการหยิบยื่นโอกาสครั้งที่ 2 อีก 2 ลูก 

อ๊ะฮ๊า...ขอบอกว่าครั้งนี้ลงหมดเลย อิๆ และแล้วก็ได้เข็มกลัดงานมาเป็นที่ระลึก (สนับสนุนโดยสสส.)
นอกจากนี้เรายังได้ภาพสวยๆจากฮันนี่ตอนไปซื้อลูกโป่งอัดแก๊สฮีเลียมให้หลานชาย (น้องอาบัส) เลยได้ความรู้เพิ่มเติมว่าเดี๋ยวนี้การให้ลูกโป่งในวันเกิดและวันรับปริญญาที่กทม.เป็นเรื่องฮิตมาก และลูกโป่งมีหลากหลายทั้งแบบเป็นตัวอักษร รูปหัวใจ ทั้งสีธรรมดาและ metalic



ลูกโป่งจำนวน 4 ลูกและ 1 ลูก เขียน Happy Birthday ฮันนี่จ่ายไป 300 กว่าบาท
รูปนี้น่าจะเป็นรูปล่าสุดที่ออกมาดูดี ทำให้เมื่อโพสท์ทาง FB มีคนมาคลิก like กว่า 150 คน โอ๊ว...นานๆจะแจ้งเกิดทาง FB



เฮ้...เป็นนางแบ่บ เอ๊ยนางแบบนี่เหนื่อยเหมือนกันแฮะ ต้องเดินสายเพื่อโปรโมทห้าง(โรบินสัน) ได้ค่าตัวเป็นแป้ง shinee กับน้ำ 1 แก้ว (สงสัยเอาน้ำผสมกับแป้งก็จะได้แป้งน้ำ) 

นอกจากนี้ต้องทำหน้าตาลดวัยลงมาหลายๆปีเพื่อให้พอๆกับบัณฑิตใหม่หมาดๆอย่างหนูนาและฮันนี่ อิๆ

-----------------

หมายเหตุ มามหาลัยวันนี้ น้องอัง เจ้าหน้าที่คณะฯซึ่งคงเห็น FB เรา บอกว่าเราน่าจะบอกว่าจะไปดูคอนเสิร์ต เนื่องจากเธอมีบัตรคอนเสิร์ตที่ได้มาจากอาจารย์เหน่งเยอะมาก (เอ่อ..มาบอกอะไรตอนนี้คะ)

***********

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หนูนา & ฟ้า สองสาวสองสไตล์

ลำบากเหมือนกันแฮะ มีพื้นที่ให้เขียนบล๊อคเยอะ ทั้งใน Facebook & Blogger
เราเลยต้องพยายามเขียนทั้ง 2 ที่ เพื่อมันจะได้ไม่น้อยใจซึ่งกันและกัน อิๆ

เพิ่งผ่านวันรับปริญญาไปไม่นาน เราเลยยังอยากเขียนถึงบัณฑิตอยู่

คราวนี้เป็นบัณฑิตที่ไม่ใช่เอกอังกฤษแต่เราก็สนิทและทำกิจกรรมกับพวกเค้าบ่อยมากๆ






ฟ้า เอกเทคโน ศึกษาฯ -- เธอเคยเรียนอังกฤษ 3 กับเราตอนปี 3 เทอม 1 และมักจะแวะเวียนมานั่งเล่นที่ห้องพักเรา จนหลังๆธรยกให้ทำหน้าที่ซื้อหาอาหารเที่ยงมาให้ เพื่อไม่ให้การเดินมาสำนักงานเราเสียเที่ยว ฮ่าๆ และใช้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์สอนพี่แววอีกตังหาก

                                              

ฟ้ายังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาชมรม "คนดีศรีสังคม" ทำให้เธอชอบทำกิจกรรมนอกชั้นเรียนเลยเป็นนิสิตที่ติดสอยห้อยตามเราไปเล่น/เล่านิทานให้น้องๆโสสะฟังตั้งแต่ปี 2 น้องๆที่นั่นติดพี่ฟ้ามาก ตอนนี้ก็ยังถามถึงพี่ฟ้า ว่าไม่ได้มาเยี่ยมพวกเค้าแล้วเหรอ เราเลยต้องบอกไปว่าพี่ฟ้ากลับไปทำงานบ้านเกิดแล้ว เอกเทคโนฯ สองคนที่เราสนิทคือ ฟ้าและนา มักจะเป็นคนหลักๆที่ไปหมู่บ้านโสสะด้วยกัน

การได้ทำกิจกรรมด้วยกันทำให้สังเกตเห็นว่าคนที่มีบุคลิกแบบเปิด คือชอบทำกิจกรรมและทำกิจกรรมหลายรูปแบบจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย อย่างเช่นฟ้าที่พูดคุยกับคนอื่นและสนิทกับคนได้ง่ายแม้เมื่อเพิ่งรู้จักกัน

ไม่สงสัยที่เธอญาติเยอะ มารับปริญญาคราวนี้พ่วงทั้งแฟนและครอบครัว ร่วมสิบกว่าคนจากสุโขทัยและพังงามาด้วย จบไปหนึ่งปีประสบความสำเร็จมีแฟนเป็นตัวเป็นตน และ upload ภาพหวานแหววทาง FB ให้ประชาชีตาร้อนไปตามๆกัน
                                         
 


หนูนา เอกสังคม ศึกษาฯ -- เราไม่เคยสอนหนูนา แต่เริ่มสนิทกันตอนเราไปทัวร์รัฐคาเมรอน (มาเลเซีย) ของเอกสังคมฯ ความช่างคุยของหนูนาทำให้พวกเราคุยกันสนุก และความเป็นคนง่ายๆของหนูนา ทำให้ไม่ว่าชวนไปไหน หนูนาไปหมด เราเลยได้ร่วมทริปกันเยอะ ทั่วสงขลา จนไปถึงลาว

                                                   

ตอนนี้หนูนาเรียนโทอยู่ที่มหาลัย UUM, Perlis, Malaysia และยังแวะเวียนมาในมหาลัยรวมถึงยังหาเวลาว่างไปโสสะกับเรา เมื่อครั้งไปสัปดาห์หนังสือ หาดใหญ่ พวกเราได้ร่วมกันซื้อหนังสือนิทานและตุ๊กตาหุ่นมือให้น้องๆด้วย



ปลายตค.56 จะมีงาน The Thai Cultural Night ที่ UUM เนื่องจากเราสนิทกับหนูนา เลยพลอยสนิทกับอาจารย์เด่น และอาจารย์เยี่ยม อาจารย์ไทยที่ไปเรียนที่นั่น ทำให้เราได้มีโอกาสลัลลาพานิสิตเอกอังกฤษอีก 7 คนไปแสดงเซิ้งโปงลางและช่วยงานทั่วไป เพื่อเป็นประสบการณ์ให้นิสิตเอกอังกฤษในการ go inter
3 beauties from Thailand & India

Ms. Thailand in Thai national costume, Washington D.C.

Thai & Polish Humphrey fellows
at the Thai Night, PSU


ได้เวลาหาชุดไทยออกงานอีกแล้ว เราถ่ายภาพนี้ไว้เมื่อปีก่อน 
จะบอกว่าชุดไทยดูแปลกและสวยในสายตาต่างชาติมาก
นางแบบ (เอ่อ...เราเอง)มีเพื่อนต่างชาติมาขอถ่ายรูปด้วยเยอะมาก 
ได้อานิสงค์จากชุดไทย ทำให้เหมือนจะแจ้งเกิด

--------------------