วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

Try to be local Bangkokian: In A Box Hostel


เดือนนี้เดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย จนอยากมีเวลานั่งสบายๆ ดูวิวข้างทาง ด้วยการโดยสารรถไฟบ้าง แต่ด้วยเวลาที่เร่งรีบเลยยังทำแบบนั้นไม่ได้

มากรุงเทพเที่ยวนี้เราใช้บริการของ Thai Lion Air (1200 B.) เนื่องจากจองหลายเที่ยวบิน เราเลยสับสนเวลาขึ้นเครื่องที่หาดใหญ่ คิดว่าขึ้นเครื่อง 15.25 pm. แต่จริงๆแล้วเครื่องออก 14.40 pm. โชคดีที่เราออกจากบ้านตอนเที่ยงแบบไม่ทุกข์ร้อน เพราะคิดว่ามาทันแน่

เมื่อมาถึงก็เดินไปเช็คอินตามปกติ รีบดูตั๋ว boarding pass อ้าว เฮ้ย boarding time เวลา 14.10 น. ตอนที่เรามาถึงเคาเตอร์เช็คอิน อีก 10 นาทีจะสองโมงเข้าไปแล้ว ไอ๊หยา เกือบไปแล้วมั๊ยเรา เกือบมีประวัติตกเครื่องบินซะแล้ว

ครั้งนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้น คือเมื่อทุกคนขึ้นเครื่องกันหมดแล้ว กัปตันประกาศว่า "เนื่องจากมีผู้โดยสารประสงค์ไม่เดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ จึงจำเป็นต้องเอากระเป๋าของผู้โดยสารคนนั้นออกจากเครื่อง" โอ้ว ในนาทีนั้นแอบคิดไปไกล (แต่เคาะไม้สามที) ว่าผู้โดยสารมีเจตนาแอบแฝง ไม่ไป แล้วทิ้งกระเป๋าไว้ กะบอมบ์เครื่องรึเปล่าฟะเนี่ย (เราว่ากัปตันและเจ้าหน้าที่คงคิดแบบนี้ เลยต้องปลอดภัยไว้ก่อน อะไรก็เกิดขึ้นได้)

เมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งจะมีข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่ามีผู้ชายที่อาการคล้ายๆสติไม่ดี ป่วนบนเครื่องไทยสมายส์ คือแบบว่าจะเปิดหน้าต่างหรือประตูนี่แหละลงจากเครื่อง ทำเอาผู้โดยสารแตกตื่นและไม่พอใจที่มีการปล่อยให้ผู้โดยสารแบบนี้ขึ้นเครื่อง

------------
วันนี้ดีใจที่สามารถนั่งโดยสารประจำทางจากดอนเมืองมาโฮสเทลได้ถูกต้อง (ถึงแม้จะมีหลงทางบ้าง อิๆ) เรานั่ง airport bus ( 30 B.) จากดอนเมืองมาหมอชิต และก็นั่งรถไฟฟ้า (34 B.) มาลงพญาไท ออกทางออกที่ 2 เพื่อมายัง In a Box Hostel ซึ่งเราเดินหลงไปจนถึงโรงแรมฟลอริดา เนื่องจากหาซอยโกลิตไม่เจอ ลากกระเป๋าเดินทางต๊อกแต๊กๆ

จนเมื่อมาเจอซอยโกลิต เอ่อ แบบว่าแค่เราเลี้ยวขวาจากบันไดขาลงทางออกที่สอง ก็เจอเลย (เป็นแบบนี้ประจำนะยะ)




อย่างไรก็ตาม ก็ยังภูมิใจมากที่จ่ายแค่ 64 B. ในการเดินทางมาสู่จุดหมายแรก :)

---------------------------

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

Learning outside classrooms: A trainee at Le Meridien Phuket Beach Resort








            As a fourth- year English major, having internship is obligation. I chose the hotel as my learning space instead of airports, tourist police stations or tour agencies that English skills get involved. At the present, I am doing internship at Le Meridien Phuket Beach Resort in Phuket.  I would like to share my valuable experience as a trainee here to younger students. I also hope that these experiences can help them make decision where or what kind of workplaces to join.


            I was impressed since my first day in the hotel with warm welcoming orientation. 
I realized that the hotel is a chain of Starwood, the internationally famous brand. Moreover, the working systems here are well-arranged. The hotel takes care of all trainees well by providing free accommodation, transportation, food, public holidays and stipend.
            I work as an assistant of secretary to Food and Beverage Director. Someone may say that it is boring to work in the office. I would say that being a trainee in the office is not just copying document or making a cup of coffee as some people misunderstand.


            My duty includes printing daily report for my boss in the morning. Then, I check document needed my boss’ signature. Moreover, I also print menus and food tags on request. I sometimes go to other offices to hand in document as a messenger. However, it is fun to interact with people. Now I have already dealt with document for one month, what I can say is that it requires high attention. I cannot be careless when I was assigned to type or arrange 
things that involved money.


            Tuesday is the day of the week that I look forward to because I go to the general store for distributing general supplies to restaurants. My favorite part is that answering the phone. My trainer always provides me chances to practice speaking on the phone. I deal with both internal and external calls. It is such the great opportunity to practice my listening skill since there are a lot of foreign chefs, staff and customers. Furthermore, two of my bosses in the office are from England and Germany. They always kindly speak to me on any subject that they can put into conversation.
            Furthermore, I am always offered a chance to participate in other activities both outside such as Asia Pacific Starwood Careers Day and in the hotel such as Songkran’s Festival. There is also trainee monthly meeting that we can meet training staff and also learn English that is necessary for hotel work. This makes my time as a trainee here more precious.

            To sum up, working in the office provides a chance to practice many skills, namely computing, writing, speaking and listening skills. I realize that I have already put myself in the most suitable place to find new experience.

                                                                                                        (Aon, or Wanlapa, 4th-year student)
-------------------------------------------------------
PS:  Aon was assigned to write the 1st-month essay to me and here it goes.  She's a very responsible woman. Whenever being assigned any jobs, she would manage her time to complete her task.  2 thumbs up for her hard working as ever. 
--------------------------------------------------------

วัฒนธรรมอาหารผ่าน Potluck Party

วัฒนธรรมอาหารผ่าน Potluck Party







                                                                                                                         



“สุดสัปดาห์นี้จะมีงานเลี้ยงอาหารแบบ Potluck Party นะ”

หลังจากได้รับทุนฟุลไบรท์มาอบรมและเรียนที่อเมริการ่วมกับเพื่อนอีก 11 ประเทศ
เข้าเดือนที่ 2 ผู้ประสานงานชาวอเมริกันก็ประกาศให้ทราบว่าถึงเวลาที่พวกเราจะรู้จักกันให้มากขึ้นผ่านอาหารของแต่ละชาติ ฉันเคยรู้เรื่อง potluck party มาบ้างจากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมอเมริกา แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่ฉันจะมีประสบการณ์ potluck party แบบเต็มตัว ตื่นเต้นๆปะปนไปกับความรู้สึกว่าจะทำอาหารไทยอะไรดี ที่ไม่ยุ่งยากและหาส่วนผสมได้ง่ายในเมือง State College, รัฐเพนซิลวาเนีย ทำแล้วเพื่อนต่างชาติจะกินได้มั๊ย แถมคนที่นี่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงอาหารไทยว่าอร่อยนักหนา แอบกังวลว่าอาหารที่ฉันทำพวกเค้าจะทานได้รึเปล่าเนี่ย

ไม่ได้การละ เห็นทีฉันจะต้องหาความรู้เรื่องงาน Potluck Party และกติกา มารยาทของการร่วมงานสักหน่อยแล้ว “การรู้เขารู้เรา” และ “ When in Rome, do as the Romans do เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องกระพริบเอ๊ยหลิ่วตาตาม” ยังใช้ได้ผลอยู่เสมอ เพื่อฉันจะได้ไม่ทำเปิ่นกับการเข้าสังคมที่นี่





Potluck Party คือวัฒนธรรมการนำอาหารที่ทำมาเองจากบ้านมาทานร่วมกันในสถานที่นัดหมาย อาจจะเป็นบ้าน หอพัก หรือโรงเรียน ตามแต่เจ้าภาพจะกำหนด ปาร์ตี้แบบนี้เป็นที่นิยมมากในหมู่คนอเมริกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนฝูงและบุคคลหน้าใหม่ๆในชุมชนนั้นๆ

คำว่า potluck มาจาก pot (หม้อ) + luck (ความโชคดี) ในตอนแรกฉันไม่เข้าใจว่าความโชคดีจากหม้อ มันมาเกี่ยวอะไรกับงานปาร์ตี้ คงเป็นการเอาข้าวหม้อแกงหม้อ (ตามประสาคนไทย) มาทานด้วยกัน เอ๊ะ แล้วคำว่า luck ล่ะ มีที่มายังไง จนไปค้นเจอ

 Potluck: one’s luck or chance as to what may be in a pot

จึงถึงบางอ้อว่ามันหมายความถึงความโชคดีหรือโอกาสของแต่ละคนว่าอาหารอะไรที่อยู่ในหม้อ นัยหนึ่งคือเราอาจจะได้ชิมอาหารที่อร่อยมาก หรืออยากกินอาหาร  homemade ก็จะได้โชคดีคราวนี้ล่ะ
ฉันได้เรียนรู้จาก host family ชาวอเมริกันและข้อมูลจากเว็บไซท์ถึงมารยาทของการร่วมงาน potluck party ว่าเราควรลองชิมอาหารแต่ละอย่างทีละน้อย เพื่อทุกคนจะได้มีโอกาสลองชิมอาหารทั้งหมด และอย่าลืมชมเชยอาหารที่ทานเข้าไปกับผู้ที่นำอาหารมา (บางคนอาจจะเก็บเรื่องอาหารที่ตนจะเอามาเป็นความลับ ในขณะที่บางคนอาจจะมีการบอกเจ้าภาพเพื่อเจ้าภาพจะได้เตรียมภาชนะให้เหมาะกับอาหารแต่ละชนิด)







และแล้ววัน potluck party ที่ฉันรอคอยก็มาถึง ฉันได้เห็นอาหารนานาชาติ 11 ชาติเรียงรายร่วมกับอาหารอเมริกันจากครอบครัว host family เยอะแยะมากมาย ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ 
 หลังจากฉันเพียรพยายามฝึกทำผัดไทยมาระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาออกงานได้ซักที ฉันยังทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลเป็นของหวานไปร่วมงานด้วย



อ๊ะ เมื่อฉันผละไปช่วยจัดโต๊ะและเตรียมจาน หันกลับมาอีกทีถั่วเขียวต้มน้ำตาลของฉันหายไปไหน ทำไมไม่อยู่ที่ประเภทของหวานล่ะ

 เอ่อมันเลื่อนไปอยู่ที่ main course (อาหารหลัก) ซะงั้น ฉันเพิ่งได้ความรู้ใหม่เมื่อเพื่อนอเมริกันบอกว่าถั่วจัดเป็นประเภทอาหารหลักของอเมริกาและเม็กซิโก ซึ่งกินถั่วเป็นอาหารหลัก โดยการทำเป็นซุป หลังจากเลื่อนข้าวเหนียวถั่วดำกลับสู่ที่ๆมันควรอยู่แล้ว ฉันเลยใช้โอกาสนี้อธิบายให้เพื่อนฟังว่าคนไทยกินถั่วเขียวต้มน้ำตาลเป็นของหวาน คงเหมือนกับตอนที่เพื่อนอเมริกันได้กินข้าวเหนียวถั่วดำเป็นครั้งแรกแล้วบอกฉันว่าเธอไม่เคยรู้ว่าข้าวเหนียวเอามากินกับถั่วได้ด้วย


เรื่องอาหารและวัฒนธรรมอาหารสามารถพูดกันได้ยาวค่ะ
ฉันพบว่าการสนทนาออกรสมากเมื่อมีอาหารเป็นตัวนำทาง แค่การถามเรื่องการทำอาหารชนิดนั้นๆ ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของผู้ที่เพิ่งรู้จักกันกระชับมากขึ้นราวกับรู้จักกันมานาน และอาจต่อยอดไปสู่การหัดเรียนรู้การทำอาหารต่างชาติที่ตนสนใจอีกด้วย ข่าวดีคือหลังจากผูกสัมพันธ์จากมื้ออาหารครั้งนี้แล้ว ฉันก็ได้มีโอกาสไปหัดทำอาหารที่อยากทำกับเพื่อนต่างชาติอยู่เนืองๆ ฮูล่า!

อาหารทั้งหลายความอร่อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับรสชาติถูกลิ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับน้ำใจของผู้ทำและการสนทนาระหว่างมื้ออาหาร นั่นล่ะสำคัญกว่าว่ามั๊ยคะ


Laughter is brightest, where food is best.

 (เสียงหัวเราะจะแจ่มใสที่สุดเมื่อได้ทานอาหารรสเลิศ)
                                         – Irish Proverb
 
 







References:
1. potluck. (n.d.). Online Etymology Dictionary. Retrieved April 15, 2014, from Dictionary.com website: http://dictionary.reference.com/browse/potluck



----------------------------------------------------------------------------------------------------

 หมายเหตุ: เราเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อส่งไปเข้าร่วมแข่งขัน I Get English's New Star Project เพื่อหานักเขียนหน้าใหม่ของนิตยสาร จำนวน 3 คน (หากได้รับคัดเลือกจะได้ค่าเรื่อง 2,000 B.) เหนือสิ่งอื่นใดที่มากกว่าค่าเรื่องคือเราใฝ่ฝันจะเขียนเรื่องลงนิตยสารเพื่อเล่าประสบการณ์มานานแล้ว ถึงเวลาซะที (เชิดหน้ามองฟ้า ทำท่ามุ่งมั่น) ที่เราจะลองทำดู หมดเขตส่งเรื่อง 31/5/14 ประกาศผล 15/6/14 

ฮ่าๆ เราจะได้มีเรื่องให้ลุ้นเรื่อยๆ ตลอดปิดเทอม ไหนๆก็มีเวลาช่วงปิดเทอม ทำไมไม่ทำตามฝันซะทีล่ะเนอะ แค่คิดหัวใจก็เต้นแรง เหมือนครั้งที่เราส่งเรื่องไป A Day & ขวัญเรือนเลย :)

จุ๊ๆ ถือเป็นความลับช่วงปิดเทอมของเรา (อิๆ จริงๆแล้วเราก็เอาไปประกาศไว้ใน FB กลุ่มเหมือนกันนะ เผื่อนิสิตคนไหนสนใจ แต่โดยทั่วไป มักเป็นเราที่สนุกสนานและลองไปทั่วอยู่คนเดียว :)