วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

โปสการ์ดที่คิดถึง

ความสุขของคนเขียนโปสการ์ด




นานแค่ไหนแล้วน๊าที่เราไม่ได้เขียนโปสการ์ด เวลาไปสถานที่ใหม่ๆ เรามักอดไม่ได้ที่จะมองหาโปสการ์ด  เราพยายามจะเขียนโปสการ์ดให้เป็นกฎข้อควรปฏิบัติเวลาไปเที่ยว บางทีซื้อโปสการ์ดไว้แล้วแต่ก็ไม่ได้ส่ง บางทีก็มาส่งในมหาลัย 55

เมื่อเราได้รับโปสการ์ดจากเวียดนามที่เชษฐ ส่งมาให้ เราตื่นเต้นอีกครั้ง ไม่คิดว่าเชษฐ (อาจารย์รุ่นน้องที่ไม่น่าจะมีอารมณ์สุนทรีย์กับการเขียนโปสการ์ดจะเป็นผู้ส่งหาเรา คิดว่าเป็นฉิม ซึ่งดูศิลปินกว่าจะเป็นคนเขียนซะอีก (โปสการ์ดใบนี้เขียนกันทั้งแก๊งค์ อันประกอบด้วย เชษฐ ฉิม น้องปาล์ม พี่แก้ว สาขาประวัติฯ)

เสน่ห์ของโปสการ์ดอยู่ตรงนี้เอง มันทำให้คนรับรู้สึกดี โดยเฉพาะเมื่อได้รับจากคนที่ไม่คิดว่าเค้าจะเขียน สอบถามเชษฐ ได้ความว่าเค้าเห็นเพื่อนๆเขียนกัน เห็นว่ามันน่ารักดีเลยเอาอย่างบ้าง และเราเป็นเหยื่อคนแรกที่เค้าส่งมาให้ (ก่อนหน้านี้เราก็เคยได้โปสการ์ดจากอินโดนีเซียจากเชษฐ+ฉิม)



ไปไต้หวันเราเลยตอบแทนบ้างด้วยการซื้อโปสการ์ด 2 ใบๆนึงเขียนหาตัวเอง ใบนึงส่งถึงเชษฐ เราได้โปสการ์ดน่ารักๆที่พิพิธภัณฑ์กู้กง น่ารักมากจนต้องเอามาเขียนถึง

มันเป็นโปสการ์ดที่เมื่อผู้เขียนๆเสร็จก็ใช้สติกเกอร์(อาจจะเป็นรูปก้อนเมฆ หัวใจ ) แปะทับลงไปเพื่อปิดข้อความ กันความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่น (เคยมั๊ยที่เห็นโปสการ์ดเพื่อนแล้วอยากอ่าน และแอบคิดว่าน่าจะอ่านได้ เพราะคนเขียนโปสการ์ดมักไม่เขียนข้อความส่วนตั๊วๆเกินไป)

เมื่อผู้รับได้รับก็แค่ใช้เหรียญขูดสติ๊กเกอร์ออก ก็จะสามารถอ่านข้อความได้

ปกติค่าส่งโปสการ์ดต่างประเทศแพงมาก ที่อเมริการ่วม 30 บ. แต่ที่ไต้หวันแค่ 10 บ.! โปสการ์ดแพงกว่าเป็นไหนๆ ใบละ 40 บ. ที่พิพิธภัณฑ์ข้างๆร้านขายของที่ระลึก มีไปรษณีย์ให้ส่งได้ทันที เราเลยเอาซะหน่อย อิๆ  รื้อฟื้นประเพณีประจำตัวเมื่อออกเดินทาง

ทริปนี้เราได้โปสการ์ดแค่ 2 ใบ แม้เมื่อไปเดินตลาด เราพยายามสอดส่ายหาโปสการ์ด แต่ว่ามันไม่น่ารักโดนใจเท่ากับที่ซื้อที่พิพิธภัณฑ์อ่ะ






ความสุขของผู้ทำโปสการ์ด

เวลาเห็นรูปถ่ายทิวทัศน์ีที่เพื่อนๆถ่ายกันสวยๆ เราจะนึกถึงโปสกา์ร์ดขึ้นมาทันที ว่าถ้าเอาไปทำโปสการ์ดคงงามขนาด แต่ด้วยนิสัยอย่างเราที่มีความอยากจะทำหลายอย่างเลยไม่ค่อยได้ทำเรื่องที่ตั้งใจนี้ซักที แฮ่...

เมื่อเห็นอ๋อยซึ่งมีงานอดิเรกถ่ายภาพ พกกล้องไปไหนต่อไหน และมักมีรูปสวยๆมาอวดบน FB สม่ำเสมอ ทำโปสการ์ดขาย เราเลยพลอยตื่นเต้นไปกับเพื่อน ไอเดียทำโปสการ์ดพับของอ๋อยก็เก๋ เขียนโปสการ์ดเสร็จ พับส่วนที่เขียน แปะกาว แค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นข้อความแล้ว






แถมอ๋อยมีหัวด้านการขายหากซื้อหลายภาพก็จะได้กล่องที่ทำจากกระดาษสาฟรีด้วย
เห็นอ๋อยตั้งแต่หัดถ่ายรูปและอาสาถ่ายรูปให้เพื่อน (อิๆ เราก็ได้ไปอัลบั้มงามๆ 1 อัลบั้ม) จนเป็นตากล้องมือฉมังรับถ่ายรูปงานแต่ง  ทำ photo book เรียกว่าจับงานอดิเรกมาเสริมงานหลัก เพิ่มความสนุกสนานอีกทางหนึ่งให้ชีวิต



เราว่าตากล้องมักจะมีความสุขเมื่อเห็นคนที่ถูกถ่ายยิ้มได้และชอบรูปที่ตัวเองถ่าย และมักจะได้รอยยิ้มกลับเสมอหากรุปออกมาดี :)

ความสุขจากงานอดิเรกมันเป็นอย่างนี้เอง



--------------------------------

5 ความคิดเห็น:

  1. Postcard สวยๆมากเรยคะ หนูอยากทำบ้างจังคะ
    มีเพื่อนส่งโปร์การ์ดจากต่างประเทศต้องสนุกมากๆแน่ๆเรยคะ ><

    ตอบลบ
  2. When you travel, you might write a self-postcard. I think it's fun and later it can be a sweet memory :)

    Or you might write to your family. By doing so, you can collect postcards and no worry that your friends might not take care of the postcard you send to them.

    ตอบลบ
  3. นกเองเก่งกว่าอ๋อยอีกที่จับงานอดิเรกมาเป็นงานหลักได้ด้วยซ้ำ 5555

    ตอบลบ
  4. อิๆ ข้อความข้างต้นของโอ๋น่าจะเป็นคำชม


    งานอดิเรกเรากับงานหลักเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะเราหยิบทุกอย่างมาเขียนหมด เวลาหมดมุขเขียน (เนื่องจากไม่ได้เดินทาง)ก็เริ่มหยิบเรื่องเพื่อนมาเขียน ฮี่ๆ ระวังตัว :)

    ตอบลบ
  5. ก่อนฝึกสอนเคยได้รับโปสการ์ดอยู่บ่อยๆ ช่วงชีวิตฝึกสอนไม่ค่อยได้ไปไหน .. ไม่ค่อยได้ส่งไปให้ใคร.. คิดถึงโปสการ์ดเหมือนกันค่ะ

    ตอบลบ