วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

Children of Heaven: Review






หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่อง Children of Heaven (1997) แล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรที่แตกต่างไปจากเดิมอีกแง่มุมหนึ่ง 
มันเป็นหนังที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว สะท้อนเรื่องราวชีวิตของคนในสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเรา ได้เห็นภาพของความลำบากที่แท้จริง และสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นของคนในครอบครัว 

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวที่ยากจนครอบครัวหนึ่งในประเทศอิหร่าน มีตัวดำเนินเรื่องหลัก คือ พี่ชายชื่ออาลี(Ali)และน้องสาวของเขา ซึ่งทั้งสองก็เป็นเพียงแค่เด็กชั้นประถม ในตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ก็คิดอยู่ในใจว่าอยากจะตั้งชื่อเรื่องว่า The shoes ให้จริงๆ เพราะประเด็นจุดเริ่มเรื่องมันคือ รองเท้าและก็ดำเนินเรื่องด้วยรองเท้า



 เหตุเกิดจากอาลีนั้นได้ทำรองเท้าของน้องสาวเขาหายไปตอนที่เอามันไปซ่อม และก็เป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆ เพราะถ้าไม่มีรองเท้าเก่าๆขาดๆคู่นั้น น้องสาวของเขาก็ไปโรงเรียนไม่ได้ อีกทั้งครอบครัวในตอนนั้นก็ลำบากสุดๆ เพราะว่าแม่ล้มป่วย และยังมีน้องทารกตัวน้อยที่ต้องดูแลอีกด้วย จึงมีเพียงพ่อที่ต้องแบบรับภาระทั้งหมดไว้คนเดียว อาลีรู้ดีถึงสิ่งนี้ และรู้ว่าพ่อของเขาจะไม่มีทางได้เงินจนกว่าจะสิ้นเดือน จึงตกลงกับน้องว่าต้องไม่ให้พ่อและแม่รู้เรื่องรองเท้าหาย ดั้งนั้นเวลาไปโรงเรียนสองพี่น้องจึงต้องผลัดกันใส่รองเท้าผ้าใบเก่าๆของอาลีที่มีอยู่เพียงคู่เดียว และตอนนี้เองก็เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนที่นั่นเขาแบ่งกันเรียนเป็นสองช่วง ช่วงเช้าสำหรับผู้หญิง ช่วงบ่ายสำหรับผู้ชาย อาจจะด้วยเหตุผลว่าเป็นโรงเรียนเล็กๆในชนบท จึงมีพื้นที่ไม่พอให้เด็กนักเรียนทั้งหมดมาเรียนพร้อมกัน เมื่อเป็นอย่างนี้เมื่อน้องสาวเลิกเรียนจึงต้องรีบวิ่งสุดชิวิติเพื่อเอาร้องเท้าผ้าใบมาเปลี่ยนให้อาลีใส่ หลังจากนั้นอาลีก็ต้องรีบวิ่งสุดชิวิติเหมือนกันเพื่อที่จะไปเรียนให้ทัน แต่มันก็ทำให้เขาไปเรียนสายติดๆกันหลายครั้ง มันเป็นอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายๆวัน จึงรู้สึกขอบคุณรองเท้าทุกคู่ที่ตัวเองมีจริงๆ อาลีนั้นเป็นต้นแบบของพี่ชายที่สุดยอดจริงๆ เขาเรียนดีมีความรับผิดชอบ และพร้อมจะเป็นผู้เสียสละทุกๆอย่างให้กับน้องสาวของเขา 

และมาถึงตรงนี้ก็อยากจะขอยกตัวอย่างฉากที่ประทับใจบางฉาก 

ฉากแรกคือตอนที่อาลีเข้าเมืองไปกับพ่อของเขาเพื่อจะไปสมัครเป็นคนสวนของบ้านที่มีฐานะดีในย่านนั้น พวกเข้าต้องใช้จักรยานเดินทางตลอดระยะทางที่ยาวไกล และต้องไปตามบ้านต่างๆหลายหลังมากกว่าจะได้งาน ต้องเจอกับอุปสรรคทั้งหมาไล่เห่า และเจ้าของบ้านไม่เป็นมิตร จนได้มาเจอกันตาหลานคู่หนึ่งซึ่งเป็นคนรวยจ้างให้ไปทำสวนที่บ้าน เอาจริงๆมันก็เป็นเพราะหลานชายของคุณตาคนนั้นเหงาจึงอยากจะเล่นกับอาลี ตรงนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าถึงจะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย ก็ใช่ว่าจะมีพร้อมไปทุกอย่าง มันก็ยังคงมีบางส่วนที่ขาดหายไปอยู่ดี ซึ่งบ่อยครั้งที่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกทางใจ

 อีกฉากหนึ่งมันเป็นตอนที่อาลีลงแข่งวิ่งมาราธอน ในความเป็นจริงทุกการแข่งขันทุกๆคนล้วนอยากจะเป็นที่หนึ่ง แต่ในมุมของอาลีมันไม่ใช่อย่างนั้น เขาอยากจะได้รางวัลที่สามซึ่งเป็นรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ เพื่อที่ว่าถ้าได้มาแล้วก็จะเอามันไปเปลี่ยนเป็นรองเท้าผู้หญิงเพื่อมอบให้กับน้องสาวของเขา และตลอดระยะทางที่วิ่งในหัวเขาก็มีแต่ภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับน้องสาวของเขา ทุกเสียงที่ผุดขึ้นมาให้หัวก็คือคำสัญญาที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ สิ่งเหล่านี้มันเป็นพลังให้เขาก้าวไปข้างหน้า  

แง่คิดที่สะท้อนผ่านออกมาจากหนังเรื่องนี้ ชีวิตมันมีแต่เรื่องที่คาดไม่ถึง และเรื่องราวของชิวิตคนแต่ละคนมันก็มีรูปแบบและรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป บางทีการที่เราจะรู้สึกเป็นทุกข์กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากน้อยเพียงใด มันก็ขึ้นอยู่กับนิยามที่เรากำหนดให้มันเป็น 

ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆก็คือว่า ชีวิตของคนบางคนมันหนักหนาสาหัสกว่าเรามากมาย แต่ทำไมดูๆไปแล้วพวกเขาเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าเราเสียอีก ถึงแม้ว่าจะเกิดมาด้วยความไม่พร้อมแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ควรไปนิยามมันว่าเป็นอุปสรรค์ที่หนักหนาเกินกว่าจะข้ามผ่าน..."อย่างน้อยเราก็ยังมีรองเท้าให้ใส่"  

                                                               ---จิราพร รหัส 58 นิสิตปี 2 เอกอังกฤษ                        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น