วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Audio book, a new year gift for the blind


สิ่งหนึ่งที่มักจะค้างคาใจเราตามประสาคนช่างสงสัยคือ ลิงค์ที่มีประโยชน์เมื่อถูกแชร์ต่อๆ จะมีกี่คนที่ลุกขึ้นมาทำมัน ที่เห็นส่วนใหญ่คือการคลิก 'like'

จากสถิติลิงค์ดีๆมักได้รับการแชร์ต่อ แต่การช่วยเหลือหรือการลงมือทำยังน้อย

อืม ...แล้วทำไมเราต้องเป็นกลุ่มคนนั้นๆที่ปล่อยให้โอกาสการทำดีผ่านไป ทั้งๆที่มันไม่ยาก แค่ใส่ใจและเก็บมาต่อยอดก็น่าจะทำอะไรดีๆเพื่อสังคม และถือเป็นโอกาสการให้ของขวัญปีใหม่กับคนที่อาจจะด้อยโอกาสกว่าเราได้

ตอนแรกเราออกแนวลังเลเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าตั้งแต่ตค.-พย.56 เราทำกิจกรรมค่อนข้างเยอะแล้ว อาจจะเท่ากับที่คนบางคนสามารถทำได้ทั้งปี ถ้าเค้าจะทำ

ไม่ว่าจะเป็น
1.  การพานิสิตไปแสดงงาน Cultural Night, UUM ก็ต้องเตรียมนิสิตก่อนล่วงหน้า  (25-26/10/13)

2.เตรียมนิสิตโครงการ Cultural Exchange between TSU & Nagoya University

3. เตรียมนิสิตเพื่อเข้าร่วมงาน IMT-GT Carnival ของมหาลัยแถบภาคใต้ร่วมกับมหาลัยอินโดฯและมาเลเซีย (22-27/11/56)

4. ที่กำลังจะทำคือเป็นที่ปรึกษาพานิสิตเอกอังกฤษเข้าร่วมแข่งขัน Singha English Challenge
วันที่ 30 พย.56


เมื่อโอ๋แชร์ลิงค์เรื่อง "โครงการปั้นฝันด้วยพลังเสียง Read for the blind" มาให้เราพักนึงแล้ว แต่เมื่อมันต้องใช้ smart phone เราก็นิ่งๆไปเนื่องจากไม่มี

จนเมื่อฟ้าส่งนิทานเสียงมาให้และให้เราช่วยบริจาคต่อให้น้องๆโสสะ เราก็มาเริ่มคิดและตั้งคำถามว่าหากเราชวนนิสิตวิชาการอ่านเข้าร่วมโครงการ "ให้ด้วยการอ่าน" นิสิตจะเอาด้วยมั๊ยนะ

เราอยากให้นิสิตใช้เทคโนโลยี smart phone อย่างสร้างสรรค์และทำอะไรดีๆด้วยจิตอาสาเพื่อสังคม และเอกอังกฤษยังไม่เคยทำอะไรลักษณะนี้มาก่อน น่าจะเป็นการดีหากพวกเราได้ทำความดียกแก๊งค์ และยกเครดิตให้นิสิตเอกอังกฤษ

เอาล่ะ  เราพร้อมแล้ว เราเริ่มด้วยการเข้าไป FB: read for the blind เพื่อต่อยอดและหาข้อมูลมาเล่านิสิต ที่นี่มีคลิปการอ่านหนังสือเสียงแบบง่ายๆไว้ด้วย เอาไว้ให้มือใหม่ได้ศึกษา

------------
รุ่งเช้าเราให้น้องปุ๊ช่วยสอนการโหลด app ให้และเมื่อเข้าห้องเรียนวิชาการอ่านทั้งสองกลุ่ม เราก็ปชส.โครงการนี้กับลูกศิษย์ เปิดคลิปความยาวสี่นาทีเรื่องการอ่านหนังสือเสียง และเปิดนิทาน "หมูยอดกตัญญูกับหมูรัฐมนตรี" ที่ฟ้าอ่านเอาไว้ให้นิสิตฟัง นิสิตฟังแล้วก็เคลิ้มไปกับเรื่องของฟ้า อยากฟังต่อเมื่อเราเปิดให้ฟังแค่ 3 นาที (นิทานของฟ้ามี sound effect ยังกะการ์ตูนมาเอง ทำให้เนื้อเรื่องมันน่าสนใจมากขึ้น ฟ้าบอกว่าแฟนเป็นคนหาเสียงมาใส่ให้ และนิทานทั้ง 7 เรื่องที่ฟ้าส่งมาให้เป็นนิทานที่ออกอากาศทางสวท.ตะกั่วป่าแล้ว นับว่านิทานของฟ้าแพร่หลายไปไกล)

---------------

ตกเย็นเราส่งอีเมลไปหาพี่ปูนกับพี่ทิพย์ แห่ง Fulbright Thailand เพื่อเล่าโครงการการอ่านนี้ให้ฟัง พี่ทั้งสองยังเป็นผู้เสริมแรงที่ดีดังเดิม เพราะอีเมลตอบกลับมาเร็วมากว่า ดีใจที่เรายัง active ในการทำการทำกิจกรรมอาสาสมัครเสมอต้นเสมอปลาย

การได้ทุนไปอเมริกาก็มีผลกับความคิดในหลายๆเรื่องของเรามากขึ้น เช่น เมื่อเข้าห้องสมุดของอเมริกา โดยเฉพาะตอนที่เราไปห้องสมุดประชาชน Schlow  Library, Penn State University, เราเห็นหนังสือเสียงเยอะมาก และที่ร้านหนังสือทั่วไปของอเมริกาก็มีการขาย audio book เป็นเรื่องเป็นราว มันทำให้เรารู้สึกว่าคนตาบอดที่นี่มีโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และโอกาสดีๆในชีวิตมากกว่าที่ไทย เพราะเค้ามีประชากรที่ใส่ใจความเป็นอยู่ของผู้พิการทางสายตา หนังสือเสียงที่นั่นมีหลากหลาย ทุกประเภท จนเราคิดว่าคนตาบอดที่นั่นคงไม่เหงาเท่าไหร่

----------


1 ความคิดเห็น: