วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ไปเป็นชาวบางกอกช่วงsummer



เราไปท้องฟ้าจำลองเป็นครั้งที่ 2 ระยะห่างกันเกือบปี คราวที่แล้วไปผิดเวลาเพราะไม่ทำการบ้านล่วงหน้า
 ทำให้เข้าชมท้องฟ้าจำลองตามรอบไม่ทัน ปีนี้เมื่อขึ้นกทม.อีกครั้งเลยชวนโอ๋ไปทำ mission เดิมให้สำเร็จ ฮี่ๆ





ดูจากอินเตอร์เน็ต ท้องฟ้าจำลองเปิดเป็นรอบๆ รอบสุดท้ายคือ 14.30 . คราวนี้เลยมากันก่อนเวลา
ค่าตั๋วถูกมาก 30 บาท แถมหากจัดเวลาดีๆก็ยังได้ดูหนังสารคดีตะลุยดาวอังคาร 3 มิติ (ความยาวประมาณ 10-15 นาที) ด้วย


เรียกว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว


มาแล้วก็ต้องไปแชะรูปที่เดิม 1 ปีผ่านไป USA ก็ใกล้แค่เอื้อม :-)

เอ่อเข้า ใจแล้วว่าทำไมพี่เคน ธีรเดช ในเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอถึงหลับเมื่อเข้าท้องฟ้าจำลอง เนื่องจากบรรยากาศมืดๆ ดาวเต็มท้องฟ้า มีคนบรรยายเล่าเรื่องดาวต่างๆทำเสียงสูงเสียงต่ำ กล่อมนอนนี่เอง ช่วงแรกๆเราพยายามฟังเรื่องดวงดาวต่างๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจ แฮ่.... ปนพยักหน้าไปมา คร่อก


ความรู้สึกของการเห็นดาวเต็มท้องฟ้าในกทม.ช่างน่ามหัศจรรย์ เพราะกทม.ยามค่ำคืนมีแต่แสงสว่างจากไฟฟ้า จำไม่ได้ว่าเราเคยเห็นดาวที่กทม.รึเปล่า แหงนมองฟ้าทีไหนเห็นแสงสว่างปรุงแต่งทั้งนั้น คนรักธรรมชาติอย่างเราเลยไม่ค่อยปลื้ม อิๆ


เราชอบเวลาออกค่ายตามชนบท กลางคืนสามารถโรแมนติคแบบเดี่ยวๆได้เลย เพราะท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว
ร่ำๆ ว่ากลับมาจะทบทวนความรู้เรื่องดาวลูกไก่ ดาวไถ ฯ เพราะจำไม่เคยได้ หาไม่เจอว่าดวงดาวไหนเป็นดาวอะไร ( ความรู้ที่เรียนตอนประถมเท่าหางอึ่ง ถึงตอนนี้ไม่เหลือแล้ว)

ก่อนไปดูท้องฟ้าจำลอง เราพยายาม search อินเตอร์ เน็ตจากห้องโอ๋ว่าควรเที่ยวที่ไหน ที่พวกเราตกลงปลงใจไปร่วมกันได้ เราอยากไปดูการทำบาตรที่ชุมชนบ้านบาตร แต่โอ๋บอกว่ามันคนละทางกับท้องฟ้าจำลอง ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง


งั้น search ต่อ
Search คำว่าเที่ยวกทม.ใน 1 วัน สถานที่ในเน็ตแนะนำมักเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเราไปแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น museum siam พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์เรือราชพิธี นิทรรศรัตนโกสินทร์ Bangkok Art Gallery
พิพิธภัณฑ์สวนผักกาด พิพิธภัณฑ์จิม ทอมสัน


ประเภทวัดแนะนำ เช่น วัดพระแก้ว วัดโพธ์ วัดอรุณ ภูเขาทอง ก็ไปมามากกว่า 1 ครั้งแล้ว
สถานที่ที่นักท่องเที่ยวฝรั่งมักไปอย่าง พระตำหนักวิมานเมฆ พระที่นั่งอนันตสมาคม ก็ไปแล้ว
สวนสัตว์ดุสิต ก็แล้ว


เรียกว่าที่แนะนำไว้ในเว็บ ไปเกือบครบแล้วอ่ะ

แล้วเราจะไปไหนดีๆๆๆๆๆ


โชคดีที่โอ๋ชวนไปกินข้าวอย่างคนมีฐานะ(ยากจน)ที่ Food Court ห้าง Siam Paragon
อิๆ ข้าวราคาจานละไม่แพงก็พอหากินได้ เราเลยได้มีโอกาสดูฟรีคอนเสิร์ต Siam Paragon Islander Summer Aloha + South Pacific Island Show ที่หน้าห้าง เห็นชื่อนักร้องลุลาก็ดี๊ด๊า  อยากฟังเพลง
อีกวันนึงเป็นพี่ปั่น ไพบูลเกียรติ


เพลงฟังสบาย สไตล์หน้าร้อนคงต้องเป็น 2 คนนี้ วันพฤ.ดูจากตารางแสดงเป็นลุลา เลยรีบมากันตั้งแต่ 6 โมงเพื่อมาฟัง ตุ๊กตาหน้ารก เอ๊ย หน้ารถ



อ้าว... กลายเป็นคอนเสิร์ตพี่ปั่นซะงั้น ไม่เป็นไร หยวนๆ(ของฟรีอ่ะ อย่าคิดอะไรมาก แถมพี่ปั่นก็ร้องเพลงเพราะแถมแสดงหนังก็ดี ฟังได้ค่ะ ฟังได้)


เวลามากทม. เรา จะแอบนึกแบบคนต่างจังหวัดว่าหากเจอดาราก็ดี อยากเห็นๆว่าตัวจริงเหมือนกับในทีวีมั๊ย แต่เดินตามห้างก็ไม่เห็นเจอ ที่ๆมักเจอกลับเป็นจตุจักร


I Love CW




ก่อนไปดูคอนเสิร์ต โอ๋กับเราเดิน sky walk ไป Central World กัน ผ่านป้าย นู่น นี่ นั่น ช่างเหมาะกับการเอาไปลง FB


โอ๊ะ... นั่นกระเป๋าใบใหญ่ เอาไป USA




ว้าว...ไปอีกหน่อย มีตู้เสื้อผ้าให้ลองใส่เสื้อผ้ายี่ห้อดัง FCUK ที่ห้างจัดไว้ด้วย ไปยืนๆอ่าน เค้าบอกว่าหากอยากได้รางวัลให้ upload ภาพที่ถ่ายตรงนี้ไปขึ้น FB คนใดที่ได้รับการกด like มากที่สุดจะได้ของรางวัลจาก FCUK







บอกโอ๋ว่าหากเราบังคับเพื่อนๆที่มีใน FB ประมาณเกือบ 500 คน เราอาจจะได้รางวัลนี้
 ฮี่ๆแต่คงเป็นการฝืนใจมิตรรักแฟนเพลงกันมากเกินไป เลยบ่ได้ทำ





ห้างนี้มีดีกว่าที่คิด เพราะเดินไปเดินมาเราก็เจอเทศกาลปล่อยแสง 100 ร้อยคน 100 คิดทำกิน ตอนที่อ่านจากหนังสือ A Day เราอยากเห็นมาก เนื่องจากเป็นโครงการแนวความคิดสร้างสรรค์ ที่เลือกคนที่มีอิทธิพลในวงการสื่อสร้างสรรค์จำนวน 100 คน เสนอไอเดียว่าใครหรือสิ่งไหนที่ทำให้เค้าชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์
 และนำสิ่งของนั้นมาจัดแสดง พร้อมทั้งมีคำอธิบายบอกเหตุผลว่าทำไมถึงชอบคน/สิ่งของนั้นๆ





จ่าเฉย ซึ่งเป็นหุ่นตำรวจปลอมที่กทม.ถูกเลือกโดยคุณทรงกลด บางยี่ขัน บก. A Day เนื่องจากเค้าคิดว่ากรมตำรวจช่างกล้าคิด(ได้ไง) เอาหุ่นมาตั้งเพื่อให้คนกลัวการทำผิดกฎจราจร มีที่เดียวในโลกนะเนี่ย


บางคนเลือกพี่เบิร์ดเพราะเป็นต้นแบบของคอนเสิร์ตผสมจินตนาการ ดังนั้นสิ่งที่นำมาจัดแสดงคือ บันทึกการแสดงคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดๆ Oh My God รื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของเราขึ้นมาทันที


บาง คนเลือกเจ๊อ้อย แม่ค้าข้าวเหนียวหมูคนสู้ชีวิต ซึ่งสามารถพลิกแพลงเพื่อให้ตรงใจลูกค้าและขายได้หลายความต้องการ เลยเกิดข้าวเหนียวหมูฝอย หมูทอด หมูกรอบ หมูแผ่น ในร้านเดียว





มีคนนึงเลือกเพลงไข่เจียว ของเฉลียง ( เฉลียง ได้รับการโหวต 2 ครั้ง คือนิ้วกลม เลือกวงเฉลียง กับ เพลงไข่เจียว) อุปกรณ์ประกอบเลยเป็นร้านขายไข่เจียว

"รับไข่เจียว(ไหม้ๆ)ซักลูกมั๊ยคะ ?"
ปิดท้ายด้วยกระจกคำคม Love of beauty is taste. The creation of beauty is art.
( ความรักในความสวยงามคือเรื่องของรสนิยม แต่การสร้างสรรค์ความสวยงามคืองานศิลปะ)




หมายเหตุ ขอบคุณโอ๋ สำหรับที่พักแรมทางให้คนแดนใต้และเป็นไกด์พาเที่ยวห้าง (หากเป็นสถานที่เที่ยวอื่น เธอมือใหม่พอกัน :-)







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น