วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สอนน้องปลูกผักอินทรีย์ ปลูกด้วยมือเห็นด้วยใจ






            การอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความต่าง ทั้งต่างความคิด ต่างทางร่างกาย เราจะทำให้ความต่างมันอยู่ร่วมกันได้อย่างไรล่ะ มันคือสิ่งที่พวกเรานิสิตสาขาการพัฒนาชุมชนต้องเรียนรู้และต้องนำไปปรับใช้ในชุมชน พวกเราเลือกที่จะศึกษากลุ่มของผู้พิการทางสายตาโดยมีโรงเรียนสอนคนตาบอดธรรมสากลหาดใหญ่เป็นที่ศึกษาในครั้งนี้


เราพบว่าคนตาบอดเองก็มีความต่างกันในศักยภาพของการเรียนรู้ มีหลายๆคนที่ไม่สามารถทำตามเส้นทางการศึกษาได้ เค้าจึงต้องเรียนรู้ทักษะอาชีพเพื่อนำไปใช้ในชีวิตของตนในอนาคต พวกเราเลยว่าหากเราเข้าไปทำกิจกรรมร่วมกันกับคนตาบอด สิ่งที่เค้าได้รับต้องเป็นประโยชน์ต่อตัวเค้า ไม่ใช่แค่ผ่านพ้นไป ทำให้พวกเราเลือกที่จะสอนน้องปลูกผักอินทรีย์ คือ ต้นอ่อนผักบุ้ง และต้นอ่อนทานตะวัน ผักสองชนิดนี้สามารถปลูกและดูแลได้ง่าย มีอายุที่โตเร็วแค่ 5-10 วัน ก็สามารถทานได้ และมีคุณค่าทางอาหารสูงมากกว่าผักหลายๆชนิด  



แน่นอนว่ากว่าพวกเราจะสอนน้องๆได้ เราเองต้องทำให้เป็นและเข้าใจในข้อจำกัดของพวกเค้า 
เลยทำให้เราต้องสมมุติว่าเราคือคนตาบอดและลองฝึกด้วยการหลับตาและปลูกผักในตะกร้าด้วยการสัมผัสมากกว่าการมอง จนเราสามารถที่จะไปถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ไปสู่น้องๆได้ กิจกรรมที่เราจัดขึ้นเรามองว่าน้องจะได้รับประโยชน์มากทั้งสามารถนำไปปรับใช้ในครอบครัวเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย หรือจะต่อยอดสร้างอาชีพให้ตัวเค้าเองได้


 และที่มากกว่านั้นคือเราได้สร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในตนเองให้เกิดแก่ตัวน้องว่าน้องสามารถทำได้
 แม้น้องเรียนไม่เก่ง ไม่สามารถต่อยอดทางวิชาการสร้างอนาคตได้ แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้น้องรู้สึกว่าน้องทำได้ ช่วยเหลือครอบครัวได้ และไม่ได้เป็นภาระของครอบครัว





---------------------------------------

เล่าเรื่องและทำงานโดยนิสิตเอกพัฒนาชุมชน ปี 4
น.ส. ดุษฎี 
น.ส บัณฑิตา 
น.ส อารยา 
 น.ส สุฑารัตน์
น.ส ชฎาพร
นาย ธนาธิป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น