วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลับดีริมสถานีรถไฟฟ้า



ปิดเทอมตุลาปีนี้ตั้งใจจะไม่ไปไหนไกล จะใช้เวลาทำตัวสงบเสงี่ยมอยู่ที่บ้าน อิๆ
หลังจากได้รับการยืนยันว่าจะได้เรียนคอร์สออนไลน์ Critical Thinking in Lang. Learning & Teaching จาก U. of Oregon, USA
เราก็กะว่าจะเตรียมตัวอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน
 แต่คนอย่างเรามักมีเหตุให้ต้องพลัดถิ่นบินออกจากรัง
ไปชมนกชมไม้ ชมเมือง(หลวง)
อิๆ เขียนยังกับว่าตัวเองเปลี่ยนไป ไม่ชอบเดินทางซะแล้ว
ไหนๆก็ต้องเดินทางเพื่อไปงาน Cambridge Day 2012 ที่กทม.
เราเลยมองหาที่พักใกล้ๆกับโรงแรมวินเซอร์ สุขุมวิท 20
Lub D Hotel: ทางเลือกของคนฝันหวาน
55 เป็นเราเองที่ฝันหวานว่าจะนอนหลับอย่างมีความสุข หัวถึงหมอนปั๊บ หลับในทันใด
แบบว่าปิดสวิตช์สมองได้เลย (เอ่อ หวังมากไปมั๊ย)
เราโน้มน้าวใจพี่แววให้เป็นเพื่อนร่วมชะตา(กรรม) หรือเป็นคู่นอน กับเรา เนื่องจากเราอยากพักโรงแรม
แบบ Hostelling International หรือโรงแรมที่ให้บริการนักท่องเที่ยวแบบราคาประหยัด คล้ายๆหอพัก
และมีบริการ internet ซึ่งราคาที่ถูกบวกกับฟรี internet และทำเลใจกลางเมืองก็เป็นตัวเลือกที่ทำให้นัก(อยาก)เที่ยวเป้หนักแต่กระเป๋าเบา
ตัดสินใจได้ไม่ยาก
ปกติเราไม่เคยพักโรงแรมที่เมืองไทยแบบนี้มาก่อน แต่หากไปนอก เราก็พักแบบ budget hotel นี่ล่ะ
ตอนนี้อยากรู้ว่าโรงแรมไทยแนวนี้เป็นยังไง คนอยากรู้อยากเห็นอย่างเราเลยลองซะหน่อย
โอ้ว...พี่แวว โอ๋ เรา เหมือนกับเป็นคนส่วนน้อยของโรงแรมนี้เลย ฝรั่งวัยรุ่นทั้งนั้น เจ้าหน้าที่โรงแรม
ก็ล้วนแต่วัยรุ่น แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่เงียบสงบ อาจเป็นเพราะทุกคนรู้มารยาทสมบัติผู้ดี
หลังจากเรานั่งรถเมล์สาย  29 จากดอนเมือง - อนุสาวรีย์ ก็มาต่อรถไฟฟ้า เนื่องจากเรามีเวลาเยอะ
เราเลยนั่งหลงไปจนถึงบางนา (แฮ่ๆ ไกลได้อีก)
สุดท้ายเราก็มาถึงโรงแรมจนได้ แฮ่กๆ ทำเอาตื่นเต้น




ห้องแบบเตียงคู่เล็กมาก แต่ด้วยการทาสีส้มทำให้เหมือนกว้างขึ้น (โดยต้องใช้จินตนาการขั้นสูงประกอบ 555
หัวเตียงมีรูปให้เหมือนกับว่าหากล้มตัวลงนอน ก็จะหลับสบาย ได้เวลาฝันดี
ตู้เสื้อผ้าของเค้าดีจริงๆ เอ่อ คงเรียกว่าตู้ไม่ได้เพราะมีแค่ไม้แขวนให้ สามอัน แต่ก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือตู้เสื้อผ้า
และแทนที่จะมีทีวี ก็กลายเป็นมีวิทยุให้ฟังกันไป







ห้องน้ำแยกส่วนอีกฟากนึงของห้อง ทำเอาพี่แววซึ่งเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อย ต้องเดินถึง
สี่เที่ยวกลางดึก (ว๋าย... เริ่มสงสารพี่แววที่ต้องมาตกระกำลำบากด้วยความเป็นคนง่ายๆของพี่เค้า)
บรรยากาศคืนวันศุกร์ที่นี่คึกคักเพราะลอบบี้เปลี่ยนสภาพเป็นบาร์
สามคนชนส่วนน้อยอย่างโอ๋ พี่แวว และเราเลยมานั่งเปิบข้าวเหนียวมะม่วง
และอะโวคาโด้กันด้านหน้าแกล้มเสียงรถไฟฟ้า (อย่างใกล้ชิดติดของสถานี)กันเลยทีเดียว
แอบทำตัวประหนึ่งว่าเป็นคนเมือง พบเจอรถไฟฟ้าอยู่ทุกวัน :)







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น