การได้รับทุนแลกเปลี่ยนในต่างประเทศเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับทุกคนและบางคนก็ไม่เคยคิดที่จะสมัครด้วยซ้ำซึ่งดิฉันหนึ่งในกลุ่มคนที่ว่านั้น
ดิฉันเป็นเพียงนิสิตที่ตั้งใจเรียนคนหนึ่ง ทุ่มเทให้กับการเรียนเพียงอย่างเดียว เพียงเพราะคิดว่าผลของการพากเพียรจะทำให้ดิฉันได้เกรดที่ดีและได้ทำงานที่มีหน้ามีตาในสังคมต่อไป
ทัศนะการมองชีวิตของดิฉันได้เปลี่ยนไปหลังจากดิฉันมีโอกาสพบกับผู้หญิงคนหนึ่งผู้ซึ่งเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้ดิฉันเปลี่ยน เปลี่ยนจากเด็กเรียนคนหนึ่ง มาเป็นคนกล้า กล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะแตกต่าง กล้าที่จะยอมขาดเรียนในบางครั้งเพื่อรวมกิจกรรมต่างๆ เพื่อหาประสบการณ์นอกห้องเรียน ประสบการณ์ที่ทำให้ดิฉันเป็นคนที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
อ.ดิญะพร ผู้ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของดิฉัน โทรศัพท์มาบอกดิฉันเกี่ยวกับทุน Global Undergraduate Exchange Program ของ Department of Cultural and Educational Affairs แห่งสหรัฐอเมริกา ความคิดแรกตอนนั้นคือไม่อยากจะสมัคร เพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสเป็นหนึ่งในห้าของผู้โชคดีได้รับทุนไปศึกษา ณ สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 1 ภาคเรียน หรือ 1 ปีการศึกษา แต่ด้วยแรงกระตุ้นจากอาจารย์ดิญะพรและความกล้าบ้าบิ่นที่มีอยู่ลึกๆ ในตัวดิฉัน ดิฉันตัดสินใจสมัครโดยได้รับคำแนะนำและความอนุเคาระห์อย่างดียิ่งจากอาจารย์ดิญะพร และอาจารย์ท่านอื่นๆ ในสาขาภาษาตะวันตก
ประมาณหนึ่งเดือนหลังจากนั้นมีการประกาศผลผ่านเว็บไซต์ ดิฉันได้สิทธ์ในการเข้าสอบสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ถูกจัดขึ้น ณ CAT telecom สาขาหาดใหญ่ ผ่านระบบ VDO conference โดยตรงกับคณะกรรมการผู้ทำการสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ จำนวน 3 ท่าน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที การสัมภาษณ์ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเรา เพียงแค่ตอบคำถามตามความรู้สึกและประสบการณ์ที่เคยสั่งสมไว้ (ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก อิอิ ! )
หนึ่งเดือนต่อมา
มีการประกาศผล โชคเข้าข้างจริงๆ ! ดิฉันผ่านรอบสัมภาษณ์
ได้เข้าสอบTOEFL (Test of English as a Foreign Language)ซึ่งเป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ยากมากๆ
และแพงมากด้วย (แต่ดิฉันได้สอบฟรีๆ เลยค่ะ)ในตอนนั้นดิฉันทั้งดีใจและกลัวแต่ความกังวลได้ลดลงเพราะอาจารย์ดิญะพรและอาจารย์ทวีศักดิ์ แนะนำการสอบและเทคนิคในการทำข้อสอบ
หลังจากสอบเสร็จ ดิฉันคอตกเดินออกจากห้องสอบคิดว่าคงไม่ได้แน่ๆ แต่....เมื่อปิดเทอมไปช่วงหนึ่ง
มีโทรศัพท์จาก Fulbright โทรมาบอกว่า “ น้องคือนางสาววัลลภา
เขียวอุ้ย ใช่มั้ยค่ะ น้องได้รับคัดเลือกนะคะ ” โอ้โห ! แทบเชื่อหูตัวเองเลยค่ะ
....ไม่เสียแรงที่กล้าออกมาจากกะลาหาประสบการณ์ภายนอก จนทำให้ฉันเกร่ง
แกร่งพอที่จะแข่งกับคนอื่นจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้
รวมระยะเวลาในการสมัครเดือนตค.55 - มีค.56 นับว่าคุ้มค่าการรอคอย
รวมระยะเวลาในการสมัครเดือนตค.55 - มีค.56 นับว่าคุ้มค่าการรอคอย
ฝากถึงรุ่นน้องปี
1
ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนเลยค่ะว่า
ตอนแรกดิฉันก็กลัวเหมือนกันว่าเข้าไปปี 1 จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ใหม่
เพื่อนใหม่ได้มั้ย
แล้วจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อต้องออกจากบ้านไปเผชิญโลกภายนอกให้อยู่รอดจนจบปี 4
แต่พออยู่ไปประสบการณ์ สถานการณ์ทุกอย่างบีบให้เราต้องอยู่ให้ได้ ผ่านมันไปให้ได้
มันสอนให้เราแกร่งขึ้น ง่ายๆ แค่เปิดใจยอมรับสิ่งที่คนอื่นแตกต่างจากเรา
เต็มใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าหน้าที่ในฐานะลูกของเราคือเรียนให้จบ
อย่างไรก็ตามการเรียนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์แบบโดยแท้จริงได้
การสละเวลาทำกิจกรรมนอกห้องเรียนบ้างเมื่อมีโอกาส จะส่งเสริมทักษะชีวิต
ทักษะในการเข้ากับบุคคลอื่นและในบางครั้งการเข้าร่วมกิจกรรมก็ทำให้เราได้ทำประโยชน์แก่ส่วนรวมได้อีกทางหนึ่งด้วย
--------------------------------------------------------
เปนแรงบันดาลใจที่ดีมากๆเรยคะ >< หนูก้อยากมีโอกาสไปต่างประเทศดูเหมือนกานคะ
ตอบลบเป็นการปั้นที่สวยสดงดงาม ประสบความสำเร็จ ยอดเยี่ยมค่าาา ..ยินดีด้วยกับพี่อร : )
ตอบลบไม่มีอะไรที่สวยงามเท่ากับการได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้่างโอกาสดีๆให้กับคนอื่น
ตอบลบแม้เป็นเพียงแรงกระตุ้นหรือคำแนะนำเล็กๆน้อยๆก็ตามที
ตบมือให้กับน้องวัลลภาที่ฝ่าฟันไปสู่จุดมุ่งหมายได้
ตบมือให้อ.นก และคนทุกคนที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกให้กับผู้ที่มีฝัน
กรรมการถามอะไรบ้างคะ
ตอบลบ