หลังจากรอคอยที่จะไปงานสัปดาห์หนังสือภาคใต้ที่หาดใหญ่ ซึ่งเลื่อนจาก 27 กค. มาเป็น 27 สค. 56 เราก็ได้ไปจริงๆซักที
นัดแนะกับหนูนาเพื่อจะไปสำรวจ worshop ซึ่งโฆษณาว่ามีทั้งการอบรมการทำ e-book , อบรมนักเขียน และการสอนประวัติศาสตร์ แต่ผิดหวังมากๆที่ workshop เหล่านี้ถูกถอดออกไปหมดเลย (จะโฆษณาทำไมเนี่ย) มีแต่การเสวนากับนักเขียนแทน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะผิดหวัง แต่เมื่อได้เห็นหนังสือละลานตา เราก็ลืมเรื่องผิดหวังได้ในทันใด อิๆ
ด้านหน้าของศูนย์ประชุมฯ มีมุมหนังสือของมูลนิธิเด็ก ซึ่งหากซื้อ 200 บ. ก็จะได้แถมตุ๊กตา 1 ตัวฟรี
เรากับหนูนาเลยหารกันซื้อนิทานให้น้องๆโสสะเพื่อจะได้ให้ตุ๊กตากับน้องด้วย
นอกจากนี้พวกเราก็ซื้อหุ่นสัตว์มือ ตัวละ 59 บ. หากซื้อ 2 ตัวจะราคา 100 บ. เอาไว้เผื่อเวลาเล่านิทานจะได้ดูมีสีสันมากขึ้นด้วย แอบคิดถึงรายการ "เจ้าขุนทอง" ที่เราดูตอนเด็กๆ ที่มีการชักเชิดรูปสัตว์และเล่าเรื่องผ่านนกขุนทอง เจ้าขุนทองออกอากาศตอน 7 โมงเช้า ทำให้เพลงประจำรายการก็จะเริ่มด้วย
" อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส
เพื่อนๆพบหน้า พี่น้องพร้อมหมู่ต่างก็มาดูรายการสุขสันต์
เจ้าขุนทองขับขานแล้วนั่นๆ เพื่อนผองมากัน ยินดีปรีดา
บ้างร้องบ้างเล่น ทำเป็นส่งภาษา ขับขานเจรจา เริงรากับขุนทอง เจ้าขุนทอง หุยฮาๆ ..."
(เอ่อ...ไม่ได้ความจำดีขนาดจำเนื้อเพลงได้นะ เพิ่งจะทบทวนเนื้อเพลงจาก youtube :)
เงินเกลี้ยงกระเป๋า ไม่ว่าจะหลวมตัวสมัคร Reader's Digest ฉบับภาษาอังกฤษ
ที่หากสมัครรายปี ตกเล่มละ 80 บ.
สมัครราย 2 ปี 75 บ.
สมัครราย 3 ปี 65 บ. (คนที่ตาโตกับตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆอย่างเราเลยลังเลใจไม่นาน และแล้วก็รูดบัตร Debit ไป 2300 บ. เพื่อการนี้และได้ซีดีเพลงบรรเลงและเครื่องคิดเลขมาเป็นของแถม
(แฮ่ม ยังไม่พลาดของแถม)
Reader's Digest (หรือสรรสาระในเวอร์ชั่นภาษาไทย) เป็นหนังสือนิตยสารเล่มโปรดของเรา มีเรื่องราวดีๆ ให้แรงบันดาลใจเยอะแยะอยู่ในนั้น เรื่องราวรอบโลกแบบนี้ทำให้สมองเราเปิดกว้างกับข่าวสารภายนอกประเทศได้ดีมากๆ ขอบอก
เมื่อต้นปีได้ข่าวว่าสนพ.จะปิดตัวเนื่องจากขาดทุนมาระยะใหญ่ ทำให้เรานึกเสียดาย แต่ก็ยังงงๆเมื่อก็เห็นห้องสมุดก็ยังมีมันอยู่นี่นา เห็นมันวางแผงเลยเหมือนเจอเพื่อนเก่า
ข้อดีของการสมัครหลายปีนอกจากราคาถูกลง หากเราจะงดชั่วคราวแล้วค่อยรับใหม่ก็ได้ โดยต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
บู๊ทหนังสือเยอะมาก พวกเราสนใจกะบะหนังสือลดราคาเป็นพิเศษ กว่าจะรู้ตัวก็แบกหนังสือหลังแอ่น และกระเป๋าเบาโดยถ้วนหน้า แฮ่...เราพยายามคิดว่าวันเสาร์นี้ก็จะมีรายได้พิเศษจากที่รับเป็นกรรมการตัดสิน Spelling Bee รอบภาคใต้ จะได้คิดว่าไม่ได้เบียดบังเงินตัวเองส่วนอื่น อิๆ
เมื่อหมดตังศ์ เอ๊ย หมดแรงแล้ว ก็ถึงเวลาหาของกิน หนูนาแนะนำร้าน Moroc เลยไปนั่งพักเหนื่อยและกินเส้นกันที่นั่น ตอนออกมาเจอป้าย "เติมรมณ์" พวกเรารีบรี่เข้าไปแอ๊คท่า ชอบชื่ออ่ะ เก๋กู๊ด
เติม (อา) รมณ์ (ดี)
ใครอารมณ์ไม่ได้มาเจอป้ายนี้น่าจะเปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้โดยทันที ป้ายย้อนยุคแบบนี้ยังขายได้สำหรับผู้ชื่นชอบการโพสท์รูปลง Facebook ได้ยินเสียงเพลงจากร้าน แต่พวกเราไม่ได้สนใจ แฮ่ม เน้นถ่ายป้ายเป็นหลัก :)
นกกาโบยบินไปซื้อหนังสือ แต่เท่าที่เห็นจะเน้นถ่ายรูปมากกว่านะนกกา
ตอบลบ