ในที่สุดก็ใกล้ได้ไปญี่ปุ่นแล้ว เหลืออีกแค่คืนเดียว เย้ๆ
วันนี้ออกเดินทางด้วยเครื่องบิน Thai Lion Air (Hatyai - BKK) เวลา 14.50 - 16.14 pm. เราก็มาถึงกทม. เพื่อหาที่พัก โรงแรม Floral Shire Resort Suvannabhumi
เรานั่งแท๊กซี่จากดอนเมืองมาที่นี่ ราคาอยู่ที่ 300 B. + 50 B. (ค่าธรรมเนียมสนามบิน) + 50 B. ค่าทิป
โรงแรมอยู่สุดซอยลาดกระบัง 42 น่าจะมีชื่อเสียงสำหรับ backpacker เพราะเห็นคนพักเป็นต่างชาติซะส่วนใหญ่ ราคาก็ไม่แพงด้วยนะ 750 บ. มี wifi ให้ใช้และบริการรับส่งสนามบินทุก 1 ชม.
พรุ่งนี้เราต้องเจอเพื่อนๆอาจารย์คนอื่นๆตอน 4.00 am. เรากะว่าจะออกจากที่นี่ตอน 3.30 am แต่ปรากฎว่าเมื่อดูตารางการเดินรถ เราต้องออกตี 3 เพราะรถออกชม.ละ 1 คัน OMG คงไม่ต้องนอนกันคืนนี้ เพราะนั่นหมายความว่าเราต้องตื่นมาอาบน้ำตอน 2.30 น.
ก่อนมากทม.เราจัดกระเป๋าเป็นอาทิตย์ ตอนแรกกะจะเอากระเป๋าเดินทางสีฟ้าขนาดกลางและเป้สีเดียวกัน แต่เมื่อซื้อเสื้อผ้ากันหนาว ผ้าพันคอ หมวก และโค๊ตซะเยอะแยะ
(ใช้เงินหมดจนหยดสุดท้าย 1000 กว่าบาทที่ตลาดนัด)
เลยต้องเปลี่ยน size กระเป๋าเป็นใบใหญ่สุดที่มีอยู่ที่บ้าน (ใบนี้เราหอบหิ้วมาจากอเมริกา เพราะใบที่ซื้อไปล้อหลุด เสียดายมากตั้ง 4000 บ.) ใบนี้เก๋ที่หมุนได้ 360 องศาฯ
กลับจากตลาดเรารีบซักด้วยความเห่อ และจัดกระเป๋าพลางๆ
เรารู้จาก อ.ทากายูกิ Akira & Yuka ว่าญี่ปุ่นอุณหภูมิติดลบ เลยกลัวหนาวขึ้นสมองค่ะงานนี้
ลองชั่งกิโลกระเป๋า นน.อยู่ที่ 15.6 กก.เราเลยเอาออกมาแบ่งใส่ในเป้เดินทางอีกหน่อย เพราะสายการบินในประเทศคือ Thai Lion Air อนุญาตแค่ 15 กก. (แต่ใจดีสามารถเอาขึ้นเครื่องได้อีก 7 กก.)
ส่วนสายการบิน Delta Airline สามารถเอากระเป๋าโหลดได้ 2 ใบๆละไม่เกิน 23 กก. ! อะไรจะให้นน.ขนาดนั้น + กระเป๋าถือขึ้นเครื่องอีก 7 กก.
ระหว่างจัดกระเป๋าก็จะมีสมุนแมวดำมานั่งเขี่ยเสื้อผ้าอยู่ข้างๆ (ต่อไปกรุณาเรียกเราว่า "นก แมวดำ เอ๊ย มนต์ดำ" อิๆ) บางตัวก็กระโดดลงไปในกระเป๋า น่าน...สงสัยว่าอยากไปรับลมหนาวที่ญึ่ปุ่นด้วยกันนะเนี่ย
เราหายไปหลายวันมันคงสงสัย "หัวหน้า" ไปไหน
--------------------
แน่ใจรึว่าได้อาบน้ำอะ นี่ออกสีือใช่มั้ย
ตอบลบ55555 ใช้เงินหมดจนหยอดสุดท้าย ฟังดูเยอะ พันนึงที่ตลาดนัด กร๊ากกกก