Give, Share, Read
& Enjoy Reading!
ใครว่าเยาวชนไทยไม่อ่านหนังสือ
ภารกิจปลูกต้นกล้าการอ่านในมหาวิทยาลัยทักษิณ
สงขลา
หันไปทางไหนก็เห็นแต่วัยรุ่นใช้เวลากับ
Smart Phone แถมใครๆก็บอกว่าคนรุ่นใหม่อ่านหนังสือน้อยลง
เพื่อขจัดข้อสงสัยนี้ว่าจริงหรือเปล่า เราเลยจะมาทำการทดลองเล็กๆ
ดูกันว่าหากตั้งหนังสือเอาไว้ตามมุมต่างๆของมหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา
จะมีคนมาหยิบไหมนะ แล้วจะใช้เวลากี่นาที ปฏิกิริยาของผู้รับจะเป็นอย่างไร มาดูกัน!
เอาล่ะหลังเลิกเรียนวันจันทน์
(30 ต.ค. 2560) นิสิตจำนวน 34 คน พร้อมหนังสือ 1 เล่มที่นำมาจากบ้าน
ก็พร้อมปฏิบัติงาน
หลายคนคิดว่าน่าจะเอาหนังสือไปตั้งไว้ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะต้องมีนิสิตมากันบ่อยๆอยู่แล้ว
มันน่าจะเป็นจุดตั้งหนังสือที่ดีแน่ๆ
ว้าว! ภายในเวลาไม่นาน
เมื่อนิสิตเอาหนังสือไปตั้งใกล้จุดหยิบช้อน-ส้อม รอเพียงไม่นานหนังสือของเธอก็มีคนหยิบไปทันที
นิสิตปรากฏตัวและอธิบายให้ผู้หยิบหนังสือฟังว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของ Pay It Forward Project ที่เราจะส่งต่อการอ่านไปยังคนอื่นๆและคาดหวังว่าคนรับจะมีความสุขกับการอ่าน
คนรับมีหน้าตาประหลาดใจและยินดีรับหนังสือไปอ่านต่อและส่งต่อ นับว่านอกจากเธอจะได้หนังสือไปแล้ว
ก็ยังได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีก 1 คน (โดยทั่วไปหากไม่ใช่นิสิตเอกเดียวกัน
หรือคณะเดียวกัน การจะหาโอกาสคุยกันมันน้อยมาก
นี่นับเป็นจุดเริ่มต้นให้พวกเขาซึ่งอยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยเดียวกันได้มีเรื่องพูดคุยกัน
รอแค่ใครคนใดคนหนึ่งเริ่มก่อนเท่านั้น นับว่าการทำ project นี้ได้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของนิสิตร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันได้ด้วย
นิสิตบางคนนำหนังสือไปตั้งหน้าลิฟท์ที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก
ทำให้คนที่มาเห็นมักจะหยิบขึ้นมาดูทันที เพราะคิดว่ามีคนทำหนังสือตกเอาไว้ นี่ก็จะเข้าทางนิสิตที่แอบดูอยู่ห่างๆ(อย่างห่วงๆว่าจะมีคนมาหยิบมั๊ย
ภารกิจนี้จะสำเร็จหรือเปล่า)ทันที
ที่เก๋มากคือมีนิสิตเอาไปตั้งที่เบาะรถจักรยานยนต์และแอบดูอยู่ไกลๆ
(แบบนี้อย่างไรเสียเจ้าของรถก็จะต้องหยิบมาดูแน่ๆ)
รอจนเจ้าของรถมาหยิบหนังสือและปรากฏตัวพูดคุยเชิญชวนให้เอาหนังสือไปอ่าน
Project นี้ผ่านไปด้วยดี ผู้รับหนังสือประหลาดใจกับ surprise ครั้งนี้ มีหนังสือติดมือกลับบ้าน
และที่ดีสุดคือมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีก 1 คน
มิตรภาพเกิดขึ้นได้ง่ายๆอย่างนี้เอง ว่าไหม
**หมายเหตุ: ความคิดการทำ project นี้มาจากการได้อ่านข่าวของ
Emma Watson
นางเอกเรื่อง Harry Potter ที่เธอเป็นทูตของ
UN มาต้ั้งแต่ปี 2014 และถูกขนานนามว่าเป็น book fairy (นางฟ้าหนังสือ)
เธอมีไอเดียเก๋ๆ ด้วยการเอาหนังสือที่เธออ่านและชื่นชอบไปแอบไว้ตามสถานีรถไฟ
พร้อมมีโน้ตเล็กๆติดไปกับหนังสือด้วย และบอกให้ผู้อ่านหากอ่านจบแล้วให้ส่งต่อไปยังคนอื่นด้วย
เล่าเรื่อง: อ.ดิญะพร ผู้สอนวิชา Analytical
& Critical Reading 1/2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น