ตลอดภาคการศึกษาที่
2/2558 นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จำนวน
7 คน ได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยหลากหลายด้านด้วยกัน เช่น
การทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ
การแต่งกายด้วยชุดไทย-รำไทย
และการทำอาหาร
ในด้านการทำอาหารในชั้นเรียนนั้น อาจารย์ผู้สอนจะให้ผู้เรียนมีสิทธิ์เลือกทำอาหารไทยที่อยากรับประทานซึ่งมีทั้งสิ้น
3 รายการ ได้แก่ ส้มตำไทย ขนมจีนน้ำยากะทิ และข้าวเหนียวมูนมะม่วง
ส้มตำ
เป็นอาหารที่นักศึกษาจีนชอบมาก เพราะมีเครื่องปรุงหลายอย่างและให้รสชาติอร่อย
ทุกคนได้ลงมือตำด้วยตนเองคนละครกอย่างสนุกสนาน
ทุกคนทำส้มตำโดยใส่พริกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะว่าคนจีนไม่ชอบทานอาหารรสเผ็ด และไม่นิยมใส่น้ำปลา จะใส่เกลือแทน
แต่รสชาติที่ได้ก็อร่อยไม่แพ้การใส่น้ำปลาเลยทีเดียว
ขนมจีนน้ำยากะทิ ผู้สอนได้เตรียมเครื่องปรุงมาให้พร้อม
จากนั้นจะอธิบายและทำเป็นตัวอย่างให้นักศึกษาจีนดู
ซึ่งนักศึกษาจีนไม่ได้ลงมือทำเหมือนกับการทำส้มตำ แต่นักศึกษาก็เข้าใจ
ส่วนที่นักศึกษาจีนได้ลงมือทำคือ การต้มไข่ ปอกไข่ ล้างผัก-จัดผัก
และเมื่อปรุงเสร็จทุกคนก็ได้รับประทานขนมจีนร่วมกันอย่างมีความสุข
ข้าวเหนียวมูนมะม่วงเป็นอาหารหวานที่นักศึกษาจีนชอบมาก
และอยากทำเป็นที่สุด แต่ว่าอุปกรณ์ในการทำไม่ค่อยพร้อมเพรียงนัก คือ
ไม่มีหม้อหุงข้าวเหนียวโดยเฉพาะ แต่จะใช้หม้อทำสุกี้นึ่งแทน
ดังนั้นจึงทำให้ใช้เวลาในการนึ่งข้าวเหนียวเป็นเวลานานแม้ว่าจะแช่ข้าวค้างคืนไว้แล้วก็ตาม
แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี คิดว่าจะไม่ได้ทานข้าวเหนียวมูนที่อร่อยแล้วเชียว
การเรียนรู้วิธีการทำอาหารไทยทั้งสามครั้งนี้
ทำให้นักศึกษาจีนได้มีโอกาสฝึกทำ
เห็นแบบอย่างจากผู้สอนและได้ชิมรสชาติอาหารด้วยตนเอง ซึ่งอาหารที่ทำทั้งอาหารคาวและอาหารหวานจะปรับรสชาติให้สอดคล้องกับความต้องการหรือความชอบของพวกเขาเป็นส่วนใหญ่
เช่น ส้มตำหรือน้ำยากะทิก็จะไม่ให้เผ็ดมาก
และข้าวเหนียวมูนก็จะไม่ให้มีรสชาติหวานจนเกินไป
ซึ่งจะแตกต่างจากรสชาติดั้งเดิมของคนไทยที่นิยมรสชาติที่จัดจ้านมากกว่า อย่างไรก็ตามแต่ การเรียนรู้อาหารไทยทั้งสามครั้งนี้เป็นสิ่งที่สร้างความรู้
ความสุขและความประทับใจระหว่างผู้สอนและผู้เรียนได้เป็นอย่างดียิ่ง
เล่าเรื่องโดย อ.เอ๋ สมิทธิชา (ผู้สอน)
----------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น