วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เรียนรู้อาหารไทย....สุขใจ จริงจริง











                ตลอดภาคการศึกษาที่ 2/2558  นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จำนวน 7 คน ได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยหลากหลายด้านด้วยกัน เช่น การทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ  การแต่งกายด้วยชุดไทย-รำไทย  และการทำอาหาร  ในด้านการทำอาหารในชั้นเรียนนั้น อาจารย์ผู้สอนจะให้ผู้เรียนมีสิทธิ์เลือกทำอาหารไทยที่อยากรับประทานซึ่งมีทั้งสิ้น 3 รายการ ได้แก่  ส้มตำไทย  ขนมจีนน้ำยากะทิ และข้าวเหนียวมูนมะม่วง
                ส้มตำ เป็นอาหารที่นักศึกษาจีนชอบมาก เพราะมีเครื่องปรุงหลายอย่างและให้รสชาติอร่อย ทุกคนได้ลงมือตำด้วยตนเองคนละครกอย่างสนุกสนาน  ทุกคนทำส้มตำโดยใส่พริกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะว่าคนจีนไม่ชอบทานอาหารรสเผ็ด และไม่นิยมใส่น้ำปลา จะใส่เกลือแทน แต่รสชาติที่ได้ก็อร่อยไม่แพ้การใส่น้ำปลาเลยทีเดียว

                ขนมจีนน้ำยากะทิ  ผู้สอนได้เตรียมเครื่องปรุงมาให้พร้อม จากนั้นจะอธิบายและทำเป็นตัวอย่างให้นักศึกษาจีนดู ซึ่งนักศึกษาจีนไม่ได้ลงมือทำเหมือนกับการทำส้มตำ แต่นักศึกษาก็เข้าใจ ส่วนที่นักศึกษาจีนได้ลงมือทำคือ การต้มไข่ ปอกไข่ ล้างผัก-จัดผัก และเมื่อปรุงเสร็จทุกคนก็ได้รับประทานขนมจีนร่วมกันอย่างมีความสุข

                ข้าวเหนียวมูนมะม่วงเป็นอาหารหวานที่นักศึกษาจีนชอบมาก และอยากทำเป็นที่สุด แต่ว่าอุปกรณ์ในการทำไม่ค่อยพร้อมเพรียงนัก คือ ไม่มีหม้อหุงข้าวเหนียวโดยเฉพาะ แต่จะใช้หม้อทำสุกี้นึ่งแทน ดังนั้นจึงทำให้ใช้เวลาในการนึ่งข้าวเหนียวเป็นเวลานานแม้ว่าจะแช่ข้าวค้างคืนไว้แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี คิดว่าจะไม่ได้ทานข้าวเหนียวมูนที่อร่อยแล้วเชียว



                การเรียนรู้วิธีการทำอาหารไทยทั้งสามครั้งนี้ ทำให้นักศึกษาจีนได้มีโอกาสฝึกทำ เห็นแบบอย่างจากผู้สอนและได้ชิมรสชาติอาหารด้วยตนเอง ซึ่งอาหารที่ทำทั้งอาหารคาวและอาหารหวานจะปรับรสชาติให้สอดคล้องกับความต้องการหรือความชอบของพวกเขาเป็นส่วนใหญ่ เช่น ส้มตำหรือน้ำยากะทิก็จะไม่ให้เผ็ดมาก และข้าวเหนียวมูนก็จะไม่ให้มีรสชาติหวานจนเกินไป ซึ่งจะแตกต่างจากรสชาติดั้งเดิมของคนไทยที่นิยมรสชาติที่จัดจ้านมากกว่า  อย่างไรก็ตามแต่ การเรียนรู้อาหารไทยทั้งสามครั้งนี้เป็นสิ่งที่สร้างความรู้ ความสุขและความประทับใจระหว่างผู้สอนและผู้เรียนได้เป็นอย่างดียิ่ง

                                                                                               เล่าเรื่องโดย อ.เอ๋ สมิทธิชา (ผู้สอน) 
----------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น