วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ยิ่งเยอะ ยิ่งมากประสบการณ์: 2nd Singha English Challenge








นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่นี่เป็นครั้งที่สอง !!!
          ในการเข้าร่วมกับโครงการ Singha English challenge เป็นครั้งที่สองของดิฉันและเหล่าผองเพื่อน บางคนอาจสงสัยว่า ไปมาแล้วก็รู้อยู่แล้วว่ากิจกรรมมันจะเป็นยังไง จะไปอีกทำไม? ตอนแรกยอมรับว่า เออ เราจะสมัครกันไปทำไมวะ เคยไปแล้วนิ แต่ก็อยากจะลองทำอะไรสนุกๆหาประสบการณ์หรือเจอคนใหม่ๆบ้าง เพราะพอปีห้าก็ต้องออกฝึกสอน ชีวิตคงวิ่งวุ่นแต่ในโรงเรียน ไม่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้อีกแล้ว เลยลองสมัครอีกครั้งหนึ่ง เย้! แล้วก็ติดเข้ารอบอีกครั้ง

          ขอข้ามมาตอนที่เริ่มโครงการเลยแล้วกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่าน (อิๆ) วันแรกก็จะเป็นการ work shop ในเรื่องของการพรีเซ้นสินค้า การพูดโน้มน้าวให้คนเชื่อ ซึ่งขอฟันธงเลยว่าในคณะเรายิ่งถ้าเป็นศึกษาศาสตร์แล้วคงไม่มีคอร์สนี้หรอกเพราะเราก็ไม่ได้จะจบไปเป็นเซลล์ขายของหรอก หรือว่าไปคิดโฆษณา แต่เอาจริงๆแล้วมันยากกว่าที่คิด เฮ้ย เราเรียนเอกอิ้งมาก็ไม่เคยต้องที่จะต้องมาคิดวิธีขายสินค้า แต่พอได้ลองทำแล้วก็นับว่าสนุกกว่าที่คิด ถึงจะไม่ได้รางวัลแต่ก็ได้มีการสุมหัวกับเพื่อนทำในสิ่งใหม่ๆ บ้าง

          หลังจากนั้นก็จะเป็นการ walk rally ซึ่งสนุกมากกก... และก็เหนื่อยมากด้วยเช่นกัน มีฐานต่างๆให้ทำ นับว่าท้าทายความสามารถเน้นๆเลย ตั้งแต่ให้ทำกับข้าวตามคำสั่งจาก teacher จาก British council สำเนียงก็อังกริ๊ด อังกฤษ แต่ก็ผ่านมาได้แถมสนุกอีกต่างหาก หลังจากนั้นก็ต้องวิ่งไปมารอบบริษัทด้วยอากาศที่ร้อนมากๆแต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ทรมานแต่พวกเราสนุกกันมากต่างหาก หัวเราะกับเหมือนบ้า นับว่าต้องลองเลยแหละ

          การไปโครงการนี้นั้นไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว คือ ได้ให้มีการรวมกลุ่มใหม่กับเพื่อนๆที่มาจากต่างสถาบัน ซึ่งพอรู้ตอนแรกเอาจริงๆว่าแบะปากไม่อยากจากกลุ่มเดิมเลย เพราะแต่ละทีมนิ มาแบบเริ่ดจริงๆกลัวจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ในส่วนของตัวดิฉันเองนั้น ได้เข้าร่วมกับ เด็กจากจุฬาลงกรณ์ มหาลัยขอนแก่น ราชภัฎอุบลราชธานี ได้รวมตัวกันเพื่อพรีเซ้นสินค้าโอท๊อปออกมาในรูปแบบของโฆษณาที่มีฉายๆอยู่ให้เราเห็น โดยได้รับการแนะนำจากคุณ  Daniel Fraser  พิธีกรจากรายการหลงรักยิ้ม (ช่อง 5)  และฝรั่งหลงกรุง ทางช่องไทยพีบีเอส


ซึ่งเชื่อมั้ยว่าคนที่คิด plot ของโฆษณานั้น คือตัวดิฉันเอง และเพื่อนๆใหม่นั้นก็เห็นดีเห็นงามด้วย และเป็นที่น่ายินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งคือ กลุ่มของเราได้รางวัลที่ 1 จ้า เป็นอะไรที่ไม่คาดฝัน ได้กระเป๋าฟรีจากโครงการสิงห์มาหนึ่งใบ ดีใจเหมือนได้ทอง 55 หลังจากที่ดีใจกันแล้ว ก็กลับสู่โหมดเครียดกันเลยทีเดียว ที่เราจะต้องไปกลุ่มเดิมไปคิดการพรีเซ้นงานในประเทศที่ได้รับมอบหมาย นับว่าการไปแข่งครั้งนี้เหนื่อยและเครียดกว่าครั้งก่อนจริงๆ (ไม่ได้โม้) แต่สุดท้ายก็ผ่านกันไปได้ตามสไตล์เด็ก ม.ทักษิณ และในช่วงบ่ายก็เป็น work shop จากคุณนีน่า พิธีกร และนักข่าวจากหลายรายการ ได้แนะนำแนวทางการนำเสนอข่าวแบบมืออาชีพ
   
             

          ในคืนวันที่สองก็จะเป็น party night ให้ทุกคนใส่ชุดตาม theme ของกลุ่ม กลุ่มของเราก็บ้าแหวกแนวแบบหาสาระไม่เจอ คือแต่งแนวซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ก็ทำเอาคนอื่นฮือฮาน่าดู คืนนี้เราก็ได้ปลดปล่อยเต้นไปกับเพื่อนๆอย่างเมามันส์ซึ่งเราทั้งหมดก็หารู้ไม่ว่ามีการมอบหมายงานให้ทำหลังจากเสร็จงานปาร์ตี้ ฮึๆ ก็หืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว เพรางานที่จะต้องทำในวันสุดท้ายนั้น ยากและยากมาก

          กลุ่มของดิฉันนั้นได้นำเสนอกันเป็นกลุ่มแรก ซึ่งยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราพวกเรานอนน้อย แถมยังไม่ได้ซ้อมและโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีปัญหา ตอนนั้นได้นอนกัน ตี 5 กว่าๆ และต้องตื่นมาเจ็ดโมงเพื่อเตรียมการ เป็นอะไรที่ไม่เคยเจอมาก่อน และสิ่งนี้เป็นเรื่องที่จะสอนเราได้ดีในการเตรียมการให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่การนำเสนอนั้นพวกเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว



          สุดท้ายแล้วการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ เราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆมากกมายก่ายกองแบบมองแล้วจะเห็นว่ามีกองเป็นเนินภูเขา (เยอะละ 55) ยอมรับว่ามีทำผิดหรือไม่ดีเท่าที่ควรเยอะ แต่สิ่งนี้แหละจะสอนให้เราปรับตัว ได้เห็นว่าตนเองมีศักยภาพแค่ไหน เมื่อไปเจอกับเพื่อนข้างนอกที่แตกต่างออกไป ได้เปิดโลกเปิดหูเปิดตามากขึ้นว่า ควรจะพยายามให้มากกว่านี้ เพราะ มีคนที่ดีและเก่งกว่าเยอะ โอกาสดีๆมักป้อนให้คนที่พยายามมากกว่าเสมอ ดังนั้นนับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่คิดว่าคุ้มค่าจริงๆที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ><

                                                                              พี่นิว จริยา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น