นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
แต่นี่เป็นครั้งที่สอง !!!
ในการเข้าร่วมกับโครงการ
Singha
English challenge เป็นครั้งที่สองของดิฉันและเหล่าผองเพื่อน
บางคนอาจสงสัยว่า ไปมาแล้วก็รู้อยู่แล้วว่ากิจกรรมมันจะเป็นยังไง จะไปอีกทำไม?
ตอนแรกยอมรับว่า เออ เราจะสมัครกันไปทำไมวะ เคยไปแล้วนิ
แต่ก็อยากจะลองทำอะไรสนุกๆหาประสบการณ์หรือเจอคนใหม่ๆบ้าง
เพราะพอปีห้าก็ต้องออกฝึกสอน ชีวิตคงวิ่งวุ่นแต่ในโรงเรียน ไม่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้อีกแล้ว
เลยลองสมัครอีกครั้งหนึ่ง เย้! แล้วก็ติดเข้ารอบอีกครั้ง
ขอข้ามมาตอนที่เริ่มโครงการเลยแล้วกัน
เพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่าน (อิๆ) วันแรกก็จะเป็นการ work shop ในเรื่องของการพรีเซ้นสินค้า การพูดโน้มน้าวให้คนเชื่อ
ซึ่งขอฟันธงเลยว่าในคณะเรายิ่งถ้าเป็นศึกษาศาสตร์แล้วคงไม่มีคอร์สนี้หรอกเพราะเราก็ไม่ได้จะจบไปเป็นเซลล์ขายของหรอก
หรือว่าไปคิดโฆษณา แต่เอาจริงๆแล้วมันยากกว่าที่คิด เฮ้ย เราเรียนเอกอิ้งมาก็ไม่เคยต้องที่จะต้องมาคิดวิธีขายสินค้า
แต่พอได้ลองทำแล้วก็นับว่าสนุกกว่าที่คิด
ถึงจะไม่ได้รางวัลแต่ก็ได้มีการสุมหัวกับเพื่อนทำในสิ่งใหม่ๆ บ้าง
หลังจากนั้นก็จะเป็นการ walk rally ซึ่งสนุกมากกก...
และก็เหนื่อยมากด้วยเช่นกัน มีฐานต่างๆให้ทำ นับว่าท้าทายความสามารถเน้นๆเลย
ตั้งแต่ให้ทำกับข้าวตามคำสั่งจาก teacher จาก British
council สำเนียงก็อังกริ๊ด อังกฤษ แต่ก็ผ่านมาได้แถมสนุกอีกต่างหาก
หลังจากนั้นก็ต้องวิ่งไปมารอบบริษัทด้วยอากาศที่ร้อนมากๆแต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ทรมานแต่พวกเราสนุกกันมากต่างหาก
หัวเราะกับเหมือนบ้า นับว่าต้องลองเลยแหละ
การไปโครงการนี้นั้นไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว
คือ ได้ให้มีการรวมกลุ่มใหม่กับเพื่อนๆที่มาจากต่างสถาบัน
ซึ่งพอรู้ตอนแรกเอาจริงๆว่าแบะปากไม่อยากจากกลุ่มเดิมเลย เพราะแต่ละทีมนิ
มาแบบเริ่ดจริงๆกลัวจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ในส่วนของตัวดิฉันเองนั้น ได้เข้าร่วมกับ
เด็กจากจุฬาลงกรณ์ มหาลัยขอนแก่น ราชภัฎอุบลราชธานี
ได้รวมตัวกันเพื่อพรีเซ้นสินค้าโอท๊อปออกมาในรูปแบบของโฆษณาที่มีฉายๆอยู่ให้เราเห็น
โดยได้รับการแนะนำจากคุณ Daniel
Fraser พิธีกรจากรายการหลงรักยิ้ม (ช่อง 5) และฝรั่งหลงกรุง ทางช่องไทยพีบีเอส
ซึ่งเชื่อมั้ยว่าคนที่คิด plot
ของโฆษณานั้น คือตัวดิฉันเอง และเพื่อนๆใหม่นั้นก็เห็นดีเห็นงามด้วย
และเป็นที่น่ายินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งคือ กลุ่มของเราได้รางวัลที่ 1 จ้า เป็นอะไรที่ไม่คาดฝัน ได้กระเป๋าฟรีจากโครงการสิงห์มาหนึ่งใบ ดีใจเหมือนได้ทอง
55 หลังจากที่ดีใจกันแล้ว ก็กลับสู่โหมดเครียดกันเลยทีเดียว
ที่เราจะต้องไปกลุ่มเดิมไปคิดการพรีเซ้นงานในประเทศที่ได้รับมอบหมาย นับว่าการไปแข่งครั้งนี้เหนื่อยและเครียดกว่าครั้งก่อนจริงๆ
(ไม่ได้โม้)
แต่สุดท้ายก็ผ่านกันไปได้ตามสไตล์เด็ก ม.ทักษิณ และในช่วงบ่ายก็เป็น work
shop จากคุณนีน่า พิธีกร และนักข่าวจากหลายรายการ
ได้แนะนำแนวทางการนำเสนอข่าวแบบมืออาชีพ
ในคืนวันที่สองก็จะเป็น
party
night ให้ทุกคนใส่ชุดตาม theme ของกลุ่ม
กลุ่มของเราก็บ้าแหวกแนวแบบหาสาระไม่เจอ คือแต่งแนวซุปเปอร์ฮีโร่
แต่ก็ทำเอาคนอื่นฮือฮาน่าดู
คืนนี้เราก็ได้ปลดปล่อยเต้นไปกับเพื่อนๆอย่างเมามันส์ซึ่งเราทั้งหมดก็หารู้ไม่ว่ามีการมอบหมายงานให้ทำหลังจากเสร็จงานปาร์ตี้
ฮึๆ ก็หืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว เพรางานที่จะต้องทำในวันสุดท้ายนั้น ยากและยากมาก
กลุ่มของดิฉันนั้นได้นำเสนอกันเป็นกลุ่มแรก
ซึ่งยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราพวกเรานอนน้อย
แถมยังไม่ได้ซ้อมและโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีปัญหา ตอนนั้นได้นอนกัน ตี 5
กว่าๆ และต้องตื่นมาเจ็ดโมงเพื่อเตรียมการ
เป็นอะไรที่ไม่เคยเจอมาก่อน
และสิ่งนี้เป็นเรื่องที่จะสอนเราได้ดีในการเตรียมการให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
แต่การนำเสนอนั้นพวกเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว
สุดท้ายแล้วการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
เราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆมากกมายก่ายกองแบบมองแล้วจะเห็นว่ามีกองเป็นเนินภูเขา
(เยอะละ 55) ยอมรับว่ามีทำผิดหรือไม่ดีเท่าที่ควรเยอะ
แต่สิ่งนี้แหละจะสอนให้เราปรับตัว ได้เห็นว่าตนเองมีศักยภาพแค่ไหน เมื่อไปเจอกับเพื่อนข้างนอกที่แตกต่างออกไป
ได้เปิดโลกเปิดหูเปิดตามากขึ้นว่า ควรจะพยายามให้มากกว่านี้ เพราะ มีคนที่ดีและเก่งกว่าเยอะ
โอกาสดีๆมักป้อนให้คนที่พยายามมากกว่าเสมอ
ดังนั้นนับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่คิดว่าคุ้มค่าจริงๆที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ><
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น