ดิฉันมีโอกาสไปสอนภาษาอังกฤษที่
Soutsaka College of Management & Technology ณ เวียงจันทน์
ประเทศลาว ร่วม 5 สัปดาห์ในช่วงปิดเทอม พศ.2557 นอกเหนือจากงานสอน
เป้าหมายหลักอีกอย่างหนึ่งคือการพัฒนางานกิจการนิสิตของวิทยาลัยโดยเฉพาะการปลูกฝังด้านจิตอาสา
นิสิตที่ลาวน่ารักมาก เมื่อชักชวนพวกเขาทำงานบำเพ็ญประโยชน์
พวกเขากระตือรือร้นและเต็มใจเข้าร่วมเป็นอย่างดี พวกเราคิดกันว่าจะทำงานอาสาสมัครทุกวันศุกร์
(เนื่องจากการเรียนที่นี่แบ่งเป็นภาคเช้า ภาคบ่าย ภาคค่ำ นิสิตอาสาสมัครจึงสะดวกทำงานวันศุกร์ตอนเช้า)
สถานที่แรกที่ไปคือหมู่บ้านเด็ก SOS สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
พวกเราใช้เวลาเล่นกับน้องๆวัยเตรียมอนุบาล ทั้งวาดรูป ระบายสี เกมส์ ทำสติ๊กเกอร์ติดกระจก
น้องๆและพี่ๆอาสาฯทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน
หรือแม้แต่ตัวดิฉันที่เพิ่งจะมีโอกาสได้ทำสติ๊กเกอร์ติดกระจกเป็นครั้งแรกในชีวิต
หลังจากจบการทำกิจกรรมครั้งที่
1 อย่างชื่นมื่นพร้อมเสียงเรียกร้องจากน้องๆให้พวกเรามาเยี่ยมอีกและนิสิตอยากมาเยี่ยมน้องๆอีก
พวกเราก็เริ่มการทำกิจกรรมที่ 2
ที่สมาคมเพื่อเด็กออทิสติก กิจกรรมของพวกเราคราวนี้ต้องคิดอย่างระมัดระวังเพราะน้องๆเป็นเด็กพิเศษที่สมาธิอาจจะสั้น
กิจกรรมเลยต้องกระชับกันน้องๆเบื่อ เลยเป็นการร้องๆ เต้นๆซะส่วนใหญ่
เพราะน้องๆหลายคนอยากโชว์ความสามารถด้านนี้
กิจกรรมครั้งที่
3 พวกเราคิดการใหญ่ร่วมจัดบู๊ทในงาน International Children's Day บู๊ทของพวกเรามีการระบายสีภาพด้วยทรายสี การระบายสีกระเป๋าผ้า
และ face painting (ภาษาลาวเรียกว่า “การแต้มหน้า”) งานวันเด็กน้อยสากลที่ลาว คล้ายๆกับของไทย
คือมีผู้ใหญ่ใจดีจัดบู๊ทเพื่อให้เด็กๆได้ร่วมสนุก กิจกรรมของบู๊ทพวกเราโดยเฉพาะการแต้มหน้าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
เด็กๆมาต่อคิวยาวเหยียด พี่ๆหลายคนไม่เคยฝึกแต้มหน้ามาก่อน
ก็มาทำจริงกันเลยในวันนั้น ส่วนดิฉันไปหัดแต้มหน้ามาก่อน 1 วันแต่เกรงว่าจะทำหน้าเด็กๆเลอะ
เลยเลือกจะช่วยด้านการระบายสีภาพด้วยทรายแทน
แอบมองเด็กน้อยด้วยสายตาอยากได้หน้าตาแฟนซีอย่างพวกเค้าบ้าง
เพราะงานนี้เป็นที่รวมของซุปเปอร์แมน เซลล่ามูน ผีเสื้อ ดอกไม้ ฯ เลยทีเดียว
การได้ทำงานอาสาสมัครร่วมกับนิสิตลาว
ทำให้ได้เรียนรู้ว่าคนวัยหนุ่มสาวของลาวก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่อาจจะยังไม่ได้นึกถึงการบำเพ็ญประโยชน์สักเท่าใดนัก
แต่หากเมื่อพวกเค้าได้ใช้พลังหนุ่มสาวไปกับการบำเพ็ญประโยชน์และเห็นความสุขของเด็กน้อย
มันทำให้พวกเค้ามีความภูมิใจในตนเองที่ได้ทำตัวมีประโยชน์ และเห็นคุณค่า
ความสามารถของตนเอง ดิฉันอยากเห็นภาพเยาวชนหนุ่มสาวของทุกประเทศมองการทำงานบำเพ็ญประโยชน์
เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ไม่ได้มองแยกส่วนจากการเรียนในห้องเรียน
งานอาสาจะเปิดโลกกว้างให้เราได้เรียนรู้ชีวิตจริง และใช้ศักยภาพของตัวเราในการทำงานเพื่อผู้อื่น
-----------
หมายเหตุ: เขียนเพื่อลงจุลสาร HUSO MAX ของคณะมนุษยศาสตร์ ฉบับต้อนรับเปิดเทอม
--------------
อ.นก
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต
/ อาจารย์ทีปรึกษาองค์การนิสิตฝ่ายบำเพ็ญประโยชน์
รางวัล The Public Service Award, Hubert H. Humphrey Fellowship 2011-2012,
USA
รูปที่อ. ตบมือ อ.ดูสวยใจดีนะคะ
ตอบลบ