"A birthday is just the first day of another 365-day journey around the sun. Enjoy the trip!"
Author Unknown
(วันเกิดแค่เป็นวันแรกจากการเดินทาง 365 วันรอบดวงอาทิตย์ จงมีความสุขกับการเดินทาง)
"สุขสันต์วันเกิดนะ เกิดเมื่อไหร่"
" เกิดนานแล้ว"
บทสนทนาข้างต้นที่โรงอาหารของมหาลัยระหว่างนิสิตผู้ที่เกิดนานแล้วกับคนอวยพร ทำให้เราอดอมยิ้มไม่ได้ ไว้วันหลังเราจะเอาไปตอบมั่งเวลาใครถามว่าเกิดเมื่อไหร่
วันเกิดมาถึงอีกแล้วเหรอเนี่ย ปีนี้พยายามทำเงียบๆ ไม่ออกสื่อ FB และเลิกบอกวันเดือนปีเกิดบน FB นานแล้ว ฮ่าๆ เพื่อนที่สนิทๆก็จะอวยพรทางกล่องข้อความเพราะคงเดากันได้ว่าวันเกิดเมื่อนานๆ ผ่านไปหลายพ.ศ. ก็จะ(ทำเป็น)แกล้งลืมกันไปแบบเนียนๆ อิๆ
แต่ละปีที่ผ่านวันเกิด เราหวังว่าเราจะแก่* (คำนี้แสลงใจจัง) กล้าด้วยประสบการณ์ ซึ่ง
น่่าจะดีกว่าการอยู่ไปนานๆ อายุผ่านๆไปโดยยังไม่ได้ทำให้ชีวิตตัวเองหรือใครต่อใครดีขึ้น
เคล็ดลับ (ใครถามเนี่ย) อารมณ์ดี ยิ้มง่่ายและมีความสุขกับชีวิตเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับเรา หนึ่งในนั้นคือต้องคบเด็ก!
ไม่ว่านิสิตมหาลัยที่เรียนกับเรา หรือนิสิตที่ทำกิจกรรมด้วยกัน ก็จะทำให้เราได้ความคิดใหม่ๆ ความสดใสของวัยพวกเค้าและมองย้อนตัวเองว่าเมื่อก่อนเราก็เคยเป็นแบบนั้น(นะ)
จะยิ่งดีมากถ้าคบเด็กอายุต่ำๆ นั่นก็คือน้องๆที่บ้านโสสะที่ทำให้เราอารมณ์ดีได้ทุกครั้งเมื่อไปหา เป็นความผูกพันธ์ร่วม 9 ปีของการไปมาหาสู่น้องๆที่นั่น
วันธรรมดาเราไปหาน้องๆไม่ได้ แต่เราก็ยังเป็นหัวหน้าแก๊งค์เด็ก (อิๆ แอบคิดเอาเองว่าแบม โอโซน ไก่โต้ง นักเรียนป.3 เลือกเราแล้ว)
วันเกิดปีนี้นอกจากจุ๋มและโอ๋ เพื่อนเก่าและปัจจุบันซึ่งคบกันมาน๊านนานตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย เราก็ยังมีแบม โอโซน เป็นเพื่อนเล่น ท่องโลกแห่งการเรียนรู้ไปด้วยกัน
อืม...ชวนโอ๋ไปรับแบมที่โรงเรียนวิเชียรชมดีกว่า การไปโรงเรียนประถม เห็นเด็กๆสนุกสนาน เจี๊ยวจ๊าว มันก็ทำให้เราฉีกตัวเองจากมหาลัยที่นิสิตจะอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ค่อยออกมาสู่กลางแจ้ง ไปอีกแบบ
หลักๆของวันนี้ เด็กๆอยากไปกินไอติม ถนนนางงาม
โอ้ว...แดงไปทั้งบริเวณ เพราะวันตรุษจีนจะเริ่มอาทิตย์หน้าแล้วนี่เนอะ
โอ๊ะ พ่อค้าทำ" ตังเม หรือ น้ำตาลปั้น" ว่าแล้วก็รีบเร่เข้าไปดูตามนิสัยอยากรู้อยากเห็น(ไปหมด)
โดยทั่วไปเรามักจะชื่นชมห่างๆ แต่เมื่อเคยดูจากรายการ "ฝรั่งหลงกรุง" มันดูมีเสน่ห์มาก การปั้นน้ำ(ตาล) เป็นตัวอย่างรวดเร็ว ออกมาเป็น superman Santa Claus โดราเอมอน มันช่างสุดยอดมาก ภายใน 3 นาทีพ่อค้าก็ทำได้ 1 ตัว (สุดยอดมากๆ) พ่อค้าบอกว่าทำมาตั้งแต่อายุ 16 ปีแน่ะ
น้ำตาลและสีสังเคราะห์เป็นส่วนผสมหลักในการทำน้ำตาลปั้น โดยการหยิบสีหลากสีตาม character ของสิ่งที่จะปั้นมาจับๆบิดๆ แป๊บเดียวก็ได้ซานตาคลอสที่แบกถุงของขวัญ
แปะ แปะ แปะ ตบมือด้วยความทึ่งในการทำงานประสานกันทางประสาทตาและมือของพ่อค้า
ราคาอันละแค่ 20 บาท แบบว่านาทีนั้นอยากจ่ายให้พ่อค้ามากกว่านั้นเป็นค่าความคิดสร้างสรรค์ผลงาน
จุ๋มซื้อให้แบมกับโอโซนคนละอัน
เรามีน้องประถม 2 คนมายืนๆมองๆดูด้วยสายตาอยากได้ เรานึกถึงตัวเองตอนเด็กที่ชะเง้อดูขนมเพื่อนแต่ไม่มีเงินซื้อ แล้วก็อยากซื้อให้น้องแต่ก็ไม่แน่ใจว่าน้องจะรับรึเปล่า เพราะเด็กไทยแทบทุกคนถูกสอนมาว่าไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า (ที่หน้าแปลกอย่างเราด้วย) น้องสาวซึ่งอ่อนวัยกว่าคิดอยู่สองวินาทีก็พยักหน้า ในขณะที่พี่ชายยังรักษาฟอร์ม ทำตามคำสั่งแม่อย่างเคร่งครัด
เราบอกน้องทั้งสองคนว่าเอาเหอะ หากไว้ใจคนแปลกหน้า เพราะว่าเราไม่ได้จับต้อง"น้ำตาลปั้น"เลย (เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและตรงนั้นก็มีคนขายและคนจากโรงงิ้วอยู่อีก 2 คน) น้องเด็กผช.ทนความเย้ายวนและสีสันของ "น้ำตาลปั้น" ไม่ได้เลยเอาด้วย 1 ตัว
เย้! ในที่สุดเราก็ได้เป็น Santa Claus (ตัวจริง)
หมายเหตุ: ว่าแต่ "น้ำตาลปั้น" นี่มันแข็งมากเลยนะ แอบแทะเท้าซานต้าคลอสได้ข้างเดียวก็ยอมแพ้
เอ๊ะ เราแก่แล้วเหรอเนี่ย ฟันไม่ดี (แน่ะ ยังไม่รู้ตัว)
------------------------------------
สวัสดีหัวหน้าแก๊งค์ด็กผู้อุปโลกตัวเองหน้าตาเฉย
ตอบลบกว่าจะมีเวลากลับมาอ่านอีกครั้ง หลังจากเอาเวลาไปสนุกด้วยกันแบบตัวเป็นๆ มาเป็นเดือน
ขอไปอ่านย้อนหลังก่อนนะ เดี๋ยวจะเสียชื่อสมาชิกตลอดชีพหมด
ไว้โอ๋กลับมาอีกรอบ จะพาโอ๋ย้อนวัย " 14 อีกครั้ง"
ตอบลบ