วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
พิชิต "เขา": Keep walking
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
ไอติมสงขลาน่าลอง
-ร้านไอศกรีมสงขลามีหลายร้านให้เลือก เก่าสุดและเป็นตำนานคือ "ไอศกรีมไข่แข็งไอยิว" ถนนนางงาม (จนป่านนี้เราก็ยังจำชื่อร้านที่เป็นภาษาจีนไม่ได้ จำๆลืมๆ ฮ่าๆ) ร้านนี้ขายกันมา 3 รุ่น ร่วม 90 ปี ประโยคที่เป็นที่เลื่องลือของคุณยายคนขาย คือประโยคเรท R "ไข่แข็งมั๊ย?" นอกจากไข่แดงที่ตอกใส่ไอติมแล้ว ที่ร้านก็มีไข่ขาวนึ่ง ถุง 10 B. ขายกินคู่กับไอติมด้วย มันอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้นใครไปร้านนี้ นอกจาก "ไข่แดง" แล้ว ก็ต้องลองสั่ง "ไข่ขาว" มาลองด้วยนะ (ถ้วยเล็ก 20 / ถ้วยใหญ่ 25 B.)
- ร้านไอติมกะทิไพจิตร หน้าวัดแจ้ง ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ คนที่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้วมักตามด้วยการสั่งไอติมต่อ ไอติมกะทิรสดี (โดยไม่ต้องเติม"รสดี":) แนะนำให้ไปลอง
- Singora Ice Cream ถนนนครนอก ร้านนี้ขายไอติม homemade ราคาแพงสุด ในบรรดา 2 ร้านข้างต้น ถ้วยนึง 69 B. แต่บรรยากาศดีสุดในการกินไอติมแบบฟินๆ และได้รูปสวยๆประดับ FB :) ร้านนี้เจ้าของผู้หญิงซึ่งเป็นคนทำไอติม ดูเป็นมิตร และคุยกับลูกค้าอย่างทั่วถึง มีการส่งลูกค้าที่หน้าร้านด้วย (หากคนไม่เยอะ) ขอแนะนำไอติมใส่ข้าวเหนียวดำ (น่าแปลกที่ร้านไอติมอื่นๆไม่เคยใส่สิ่งนี้ ในย่านนี้จะใส่ถั่วเขียว ข้าวเหนียว ลูกเดือย ลูกชิด (ภาษาใต้เรียกลูกจากนะ)
จะร้านไหนก็อร่อยหมดแหละเนอะ ถ้ากินไป คุยไป และหัวเราะไป Ho Ho Ha Ha Ha :)))
My piggy bank collection
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เราเริ่มซื้อกระปุกออมสิน เวลาเห็นรูปหมูอ้วนๆ หรือกระปุกออมสินอ้วนๆ มันเหมือนเป็นสิ่งดึงดูดเราให้เข้าหา เราว่ามันหน้าตาน่ารัก เพื่อให้เด็กๆอยากสะสมแน่ๆเลย
กระปุกออมสินข้างต้น มีราคาแค่ 10 บาท!
10 บาท! (ตะโกนทำไม)
มันถูกมากๆ และรูปลักษณ์ดูเป็นหมูเมืองนอก แถมเขียนยั่วๆ ว่า Billionaire Savings กระปุกสำหรับเศรษฐีพันล้าน ! เราเจอมันที่ตลาดนัดวันอาทิตย์หน้ารร.วรนารีเฉลิม
วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
๋Jack Ma: As we know
Jack Ma บุคคลสำคัญระดับโลกที่เขย่าวงการขายออนไลน์ alibaba ทำให้สังคมจีนเป็นสังคม cashless
และนำแนวคิดด้านธุรกิจใหม่ๆมาให้โลกรู้จัก
เราได้เริ่มอ่านหนังสือของเขา (ฉบับภาษาอังกฤษ) จากตอนเรียนอบรมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยรุ่นแรก
การต้องอ่านเพื่อเอามา discussion ในการอบรม ทำให้ได้อ่านแบบลึกๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคิดได้อย่างน่าทึ่ง
โดยเฉพาะเมื่อดูคลิปที่เขาพูดถึงการถูกปฏิเสธ (rejected) ไม่ว่าจะเป็นการสมัครเข้าทำงานที่ KFC การสมัครตำรวจ หรือการสมัครเข้าเรียนที่ Harvard จำนวนการถูกปฏิเสธของเขาไม่ใช่แค่ 1 ครั้ง แต่เป็น 10 ๆ ครั้ง! ตอนเล่าเรื่องสมัครเข้า Harvard พิธีกรบอกว่าตอนนี้ Harvard คงแทบต้องขอให้เค้าไปเป็นอาจารย์สอน 55
เขาเล่าอย่างหน้าตายิ้มแย้ม และติดตลก ทำให้รู้ว่าชีวิตของเขาไม่หยุดอยู่แค่การล้มลงเมื่อถูกปฏิเสธ แต่เขากลับพยายาม และผงาดขึ้นมาได้ จนเรียกว่าทั่วโลกรู้จักไปทั่ว สุดยอดมากๆ
หนังสือของ Jack Ma ยังออกมาอีกหลายเล่ม ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยหลายเล่มมาก เล่มนี้เราเห็นที่ร้าน Singora Ice Cream (เราว่าร้านกาแฟ หรือร้านต่างๆ จะมีบรรยากาศชิลล์มากขึ้น หากตั้งหนังสือที่เจ้าของร้านซื้อมาอ่านเอาไว้ หรือหนังสือที่คิดว่าลูกค้าน่าจะสนใจหยิบมาอ่าน มันช่วยฆ่าเวลาระหว่างรออาหาร เครื่องดื่มได้ดีนะ) ลูกค้าเดี๋ยวนี้อาจจะไถโทรศัพท์ไปมา แต่เราว่าก็จะยังมีลูกค้าที่อยากพลิกหนังสือไปมา ด้วยเหมือนกัน
Sun. 15 Nov. 2020 @ Singora Ice Cream with โอ๋ (ไอติมค่อนข้างแพง ถ้วยละ 69 บ. หากใช้ DTAC และซื้อครบ 150 บ. ได้ลด 10%)
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
Online Meeting & new good intl friends
ค่ำนี้ได้เปิดฟัง Coming of Age Podcast ซึ่งมีทั้งหมด 23 ตอนแล้ว เราไล่ๆดูว่าอยากฟังของใครก่อน ดูจนหมด list คิดว่าเริ่มจาก"นิ้วกลม" น่าจะดี
เราได้ยินคำว่า coming of age เมื่อปริญญาตรี ตอนเรียนวิชาการอ่าน / วรรณคดี ให้แปลเป็นไทย เรานึกถึงคำสวยๆไม่ออก สำหรับเรามันหมายความประมาณว่า "การพ้นจากความไม่รู้ของช่วงหนึ่ง เข้าสู่การเรียนรู้ชีวิต" เช่นสมมติว่า บางคนพ่อแม่เสียชีวิต ก็จะ coming of age ตื่นจากการเป็นลูกที่เอาแต่ใจ ได้ทุกอย่าง มาคิดได้ว่าต้องช่วยเหลือตนเอง
หรือจากการอกหักจากความรัก ก็จะ coming of age ว่าต้องดูแลตนเอง เราไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล ประมาณนี้
ชื่อ podcast ทำให้เราสนใจ นอกเหนือจากที่เคยฟัง "คำนี้ดี" (ฮิตในในเรา) " R U OK" ซึ่งฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ช่วงเวลาฟัง podcast ของเราคือช่วงซักผ้าด้วยมือ เราว่ามันเพลินดี มือขยี้ หูฟัง (ผ้าสะอาดไหม อันนี้อย่าถาม ไม่เน้นเรื่องนี้ อิๆ เน้นสาระว่างานเสร็จ 2 อย่าง ทั้งได้ผ้าสะอาดๆ และหูรับความรู้:)
ต่อ-- พูดถึง podcast นิ้วกลม เรื่องนี้ เขาพูดได้น่าสนใจว่าเขามีความสุขกับการทำงาน เพราะงานทำให้เขาได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และทำให้ตนเองสดใส อยากรู้อยากเห็น
คิดเหมือนกันเลย!
ปุจฉา: หากถามว่าทำไมเราชอบไปทำงานเสาร์ อาทิตย์ หรือไม่เบื่อกับการทำงาน
วิสัจนา: เราสนุกกับการทำให้งานเดินหน้า และ event ที่ตั้งใจจะทำเสร็จสิ้นไปด้วยดี มันเป็นความภูมิใจในแต่ละครั้ง และเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ ทำงานไปเรื่อยๆ เมื่อมีงานใหม่ๆเข้ามา ความรู้สึกท้าทายจะเกิดขึ้นใหม่ทุกครั้ง เราคิดว่าเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และได้เพื่อนใหม่ๆจากการทำงานขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่าง...
E-Cultural Exchange Program ที่เราคิดทำร่วมกับ UNIMAS, Atma Jaya U., Soutsaka College ซึ่งเป็นกิจกรรมจัดให้นิสิตทั้ง 4 ประเทศได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมผ่าน Google Meet ก่อนจะจัดจริงวันที่ 22/12/63 เรานัดประชุม 2 ครั้งแล้ว ทุกคนที่ร่วมประชุมใจดี และบรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นมิตร รับฟังซึ่งกันและกัน ทุกคนมุ่งให้เกิดงานที่ดีเพื่อนิสิตและเพื่อกิจกรรมต่างประเทศที่จะเกิดร่วมกัน
ทั้ง Malia, N'Bouala, Luisiana (dean), Andre & Raxel ( IRO officers) ทำให้การร่วมงาน การเตรียมการข้ามประเทศเป็นไปอย่างดี
ตอนนี้เราชินๆกับการประชุมออนไลน์ และ run การประชุมเอง (จนถึงวันนี้ เรา run มา 3 ครั้งแล้ว กับ
- กิจกรรม TEEN TALK ( 12 Nov.2020 เพื่อเตรียม series 6: Women Equality)
- กิจกรรม E-Cultural Exchange Program ( Sep. & 16 Nov.2020)
เวลาเราดำเนินการประชุมเอง ภูมิใจมาก ที่เสร็จเร็วภายใน 1 hr. และวันนี้แค่ 30 mins เราว่าเมื่อสาระงานเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปทำงานอื่นต่อ ทำงานกับต่างชาติดีตรงนี้ เราพบว่ามันไม่ยืดยาด
วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
Hackathon VS Marathon
Hackathon VS Marathon?
เห็นคำว่า hackathon แบบผ่าน ๆ มาพักใหญ่ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก คิดแค่ว่า อู้หู ใครจะทำอะไรได้นานขนาดนั้นเนี่ย ที่เคยได้ยินมา มีการเต้นไม่หยุด ที่ Penn State U. เพื่อเอาเงินไปทำการกุศล หรือการดูหนังยาวๆไป ใครหลับก่อนแพ้
ได้ยินอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน จากเอกสารที่ส่งมางานวิเทศสัมพันธ์ ว่ากระทรวงศึกษาของอินเดีย จัดงาน Hackathon เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใน ASEAN + อินเดีย ได้มาร่วมมือกันหาแนวทางแก้ปัญหาในอาเซียนอย่างสร้างสรรค์ โดยรับสมัครนิสิตแต่ละประเทศ จำนวน 30 คน + ที่ปรึกษา 10 คน
เราใจเต้นแรง ความรู้สึกนี้มักจะมาทันทีที่เราเห็นการแข่งขันหรือการทำงานที่เราสนใจ และเอาตัวเองไปร่วมได้ ได้เวลาทำสิ่งท้าทายรับปีหน้า 2564 แล้ว !
ชีวิตต้องมีอะไรท้าทายใช่ไหม ตอบเลยว่า "ใช่" 55
ปี 2563 สิ่งท้าทายของเราคือการทำหน้าที่ใหม่ "หัวหน้างานวิเทศสัมพันธ์ ( International Relations Office, TSU) ซึ่งต้องคิดงานใหม่ และประสานงานกับต่างชาติ ประชุมออนไลน์กับมาเลเซีย อินโดนีเซีย อยู่แทบทุกเดือน ตั้งแต่มาทำตำแหน่งนี้เมื่อ 10/8/63
และเพราะตำแหน่งนี้ ทำให้เราเห็นประกาศเกี่ยวกับต่างประเทศที่ส่งมาที่มหาลัยก่อนใคร
เราหานิสิตเข้าร่วมและได้ฟาติน + ฟานี (นิสิตเอกอังกฤษ ปี 4) ที่ตอบรับในทันที
เมื่อโทรกลับไปสอบถาม ศป.อว ว่าคัดเลือก mentor ยังไง จนท.บอกว่าต้องดูว่ามีคนสมัครกี่คน หากมีหลายคนคงจะสัมภาษณ์ (เหมือนกับน้องเขาไม่แน่ใจว่าจะมีคนสมัครไหม แต่เราว่ามัน challenge มากเลยนะ และก็อินเตอร์มากๆด้วย การเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบรรยากาศกดดันแบบนั้น 36 ชม. ( 12 hrs. X 3 days = 36 hrs.) ช่างท้าทาย
ไม่ว่าจะได้รับคัดเลือกหรือไม่ อย่างน้อยเราก็เอาตัวเราใส่ตะกร้า(ล้างน้ำ) เอ๊ย ม่ายช่าย เข้าไปข้องเกี่ยวกับมันแล้ว 55
มี theme 8 เรื่องด้วยกัน แต่ที่เราสนใจคือ education + tourism เราว่าเรามีความรู้พอที่จะให้คำปรึกษาทีมนิสิตได้ ซึ่งนิสิตก็ยังต้องแยกประเทศกันทำงาน 1 ทีมจะมี 3-4 ประเทศอยู่ด้วยกัน ทำงาน คิดงานร่วมกัน และมี 2 mentors
งานนี้ทำให้เรานึกถึงการเป็นผู้ประสานงานกองถ่ายหนังต่างประเทศ ที่เราต้องสมัครก่อนและผ่านการสัมภาษณ์ถึงจะได้ทำ จนตอนนี้เราก็ยังโม้อยู่ว่า "ครั้งหนึ่งเคยทำงานกองถ่ายหนังต่างประเทศและเคยเดินบนพรมแดง" อิๆ
----------
Hackathon / Marathon มีความเหมือนกันตรงการใช้เวลานานกับการทำกิจกรรม/การแข่งขัน
Marathon = 42 km.
Hackathon ครั้งนี้คือ 3 วัน ( 36 hrs.)