วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตามล่าหา A Day (Letter Place)

สวัสดีจากสงขลาค่ะทีมงาน A Day




ดิฉันเพิ่งกลับมาจากกทม.ค่ะ ไม่ได้ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติมานานแล้ว
แต่ปีนี้ไม่ไปไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ได้อ่าน A Day มาเกือบปี
เลยต้องมาตามหาฉบับย้อนหลังปี 54-55 ที่นี่ (ข้อเสียของการไม่สมัครสมาชิก อิๆ)
ปีที่แล้วดิฉันไปอเมริกา ทำให้พลาดการติดตาม A Day ไปร่วมปี
ตั้งใจว่ากลับมาจะกวาดหนังสือในดวงใจ ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมี A Day เป็น top 3 มาไว้ครอบครอง
และใช้เวลาช่วงปิดเทอม update ข้อมูล และเรื่องราวแรงบันดาลใจจาก A Day ต่อค่ะ


ตอนนี้มี A Day เป็นตัวประกัน เอ๊ย...อยู่ในมือหอบหิ้วกลับมาจากงานสัปดาห์หนังสือหลายเล่มแล้วค่ะ
เสียดายก็แต่อีกวันสองวันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดแล้ว
คงต้องละเลียดอ่านไปเรื่อยๆ กะว่าจะเลือกแรงบันดาลใจและเรื่องราวบางเรื่องเอาไว้สอนนิสิตต่อ
เนื่องจากดิฉันสอนวิชาการอ่านวิเคราะห์และวิจารณ์
และกำลังทำโปรเจ็คเล็กๆในชั้นเรียนโดยให้นิสิตเอาหนังสือเล่มโปรดมาแลกกันอ่าน


ดิฉันก็เลยจะเริ่มต้นด้วยการเอา A Day มาเกริ่นนำเป็นหนังสือแนะนำที่นิสิตควรอ่าน
อันนี้ได้ไอเดียจาก Fulbright Talk Show: Read with Greed อ่านอย่างอยาก
ที่หาดใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ มีการเชิญศิษย์เก่ามาเล่าถึงหนังสือดีๆที่ส่งผลต่อความเป็นตัวตนของศิษย์เก่าแต่ละคน
โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก เพราะหนังสือ 1 เล่มอาจส่งแรงบันดาลใจให้ใครบางคนที่เข้าร่วมฟัง
"หนังสือเปลี่ยนโลก" ค่ะ ดิฉันเชื่อแบบนั้น


ปล. เพื่อนถ่ายรูปตอนหอบหนังสือ A Day หน้าบู๊ทของ A Book ไว้ค่ะ เลยส่งมาให้ทางทีมงานดูเป็นหลักฐานค่ะ :)




--------------
หมายเหตุ  นี่เป็นอีเมลฉบับแรกที่เราเขียนหาทีมงาน A Day ทั้งๆที่อ่านมันมาตั้งแต่เมื่อมันคลอด
ด้วยความคาดหวังว่าทางทีมงานใจดี จะตีพิมพ์อีเมลเรา อิๆ หรือไม่ตีพิมพ์ก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อยเราก็ได้เรื่องเขียนบล๊อคเพิ่ม 1 เรื่อง อิๆ
ต่อไปนี้เวลาซื้อ A Day เราจะได้แอบแง้มๆดูว่ามีอีเมลเราตีพิมพ์มั๊ย ฮี่ๆ ลุ้นดีๅ

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Book Expo: The final destination before the opening of the 2nd semester 2012



ได้ฤกษ์ไปกทม.ก่อนเปิดเทอม ( 29 ตค. 55) โดยมีข้ออ้างว่าไปเพื่อพัฒนาวิชาการ
อิๆ แต่จุดประสงค์แอบแฝง(ที่บอกเค้าไปทั่ว) คือ
การไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต

งาน Cambridge Day ที่จัดเพื่อครูสอนภาษาอังกฤษน่ะฟรี
แต่งานสัปดาห์หนังสือ ฮี่ๆ มีแต่รายจ่าย ปี 54-55 ช่วงที่ไปอเมริกา
ทำให้เราพลาดการอ่านหนังสือเล่มโปรดไปเยอะ (โดยเฉพาะ A Day)
ก่อนกลับไทยเราหมายมาดเอาไว้ว่าเราจะกลับมาตามอ่านให้ครบทุกเล่มให้ได้
ก่อนหน้านี้เราไปยืมอะเดย์ที่ร้านเช่าหนังสือ แต่เจ้าของเอาไปขายเป็นหนังสือมือสองซะแล้ว
ด้วยความที่เป็นที่รู้กันว่าถึงขายมือสอง อะเดย์ก็ยังทำราคาได้ดีเสมอ
เพราะแฟนๆหลายๆคนสะสม

เอาฟะ ไม่ง้อ ไม่มีให้อ่านที่สงขลา ไปหาที่กทม.ก็ได้ ฮึ...

ปักหมุดหมายเรียบร้อย ก็รีบบอกโอ๋ อิๆ หาผู้ร่วมอุดมการณ์
โชคดีที่โอ๋มักไม่ปฎิเสธเพราะเข้าใจหัวอก "หนอน" อย่างเรา ฮี่ๆ

โอ้ว...ตะลุยงานหนังสือตั้งแต่วันแรก แต่มีเวลาแค่ 1 ชม.ก่อนสามทุ่ม
เลยพุ่งไปหาบู๊ทของ A Book เพื่อดูอะเดย์ฉบับ Back Issues อ๊ะ ราคาโอเค
เล่มละ 50 บาท แอบกะน้ำหนักคร่าวๆ อืม...ยังพอยัดในกระเป๋าเดินทางไม่ให้เกิน 7 kg. ได้อยู่

"5 เล่ม น้อง"







ใจเต้นแรงเมื่อได้อะเดย์มาครอบครอง อิๆ เหมือนทำภารกิจเสร็จสิ้นไป 1 อย่าง
โอ๊ะ มุมโน้น หนังสือสารคดี ว่าแล้วก็รี่เข้าไปดูซักหน่อย
อ๊ะ แล้วนั่นหนังสือการ์ตูน"กบนอกกะลา" ซื้อมาไว้ครอบครองซักเล่มน่าจะดี



เฮ้ย...บู๊ทของ Plan for Kids ปิดซะแล้วอ่ะ ลืมภารกิจอีก 1 อย่างว่า
ปุ๊ฝากซื้อหนังสือเด็กให้น้องหมูแฮม OMG!!

เห็นบู๊ทหนังสือคุณวินทร์ เลียววาริณ เลยชะแว่บเข้าไปเตร่ๆ
น้องคนขายพยายามบรรยายหนังสือและปิดการขายสุดฤทธิ์
แต่ส่วนใหญ่เราอ่านแล้วอ่ะ นิยายของคุณวินทร์ออกแนว sci-fi เราเลยไม่ค่อยอ่าน






สุดท้ายได้ติดมือมา 2 เล่ม น้องคนขายบอกว่าเอาไปขอลายเซ็นนักเขียนได้
ว๋าย มายืนอยู่ตั้งนานไม่เห็นว่าคุณวินทร์นั่งอยู่ข้างบู๊ท
เลยได้ลายเซ็นพร้อมเห็นนักเขียน ตัวจริงเสียงจริงก็วันนี้ :)


ทุกเหตุการณ์มี paparazzi โอ๋คอยเก็บทุกช๊อต รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดารา 55
ที่ทางรายการต้องตามติดชีวิต 1 วันเพื่อไปบอกแฟนๆ คิกๆ





***หมายเหตุ เรื่องนี้มีอัพอยู่ที่ Facebook เผื่อใครอยากไปคลิ๊ก Like ที่นั่น ^^