วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Aj. Aksornprasert: My Role Model



ตั้งแต่ปีแรกจนเข้าปี ที่ 7 ของการทำงานที่สาขาภาษาตะวันตก อาจารย์อักษรประเสริฐเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆมาโดยตลอด 
 
 
หนู ต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่เขียน recommendation form ให้ถึง 2 ครั้ง จนทำให้ได้ทุนไปญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา การเขียนของอาจารย์ทำให้รู้สึกว่าอาจารย์รู้จักหนูดีมาก และเลือกหยิบด้านดีของเพื่อนร่วมงานมาเขียน ทำให้จดหมายแนะนำจากหัวหน้างานน่าสนใจ

 ตัว เองคิดมาเสมอว่าที่ได้ทุน เหตุผลหนึ่งก็เพราะจดหมายแนะนำของอาจารย์ อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่าอาจารย์ได้ไปญี่ปุ่นด้วยทุนเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ หนูก็ขอตามรอยไปญี่ปุ่นเมื่อปี 52 
อาจารย์เคยได้ทุนอบรมที่อเมริกา ตอนนี้หนูก็จะเลียนแบบอาจารย์บ้างค่ะ  
 
เห็น การทำงานของอาจารย์แล้วทำให้มีไฟในการสอนและการทำงาน ไม่เห็นอาจารย์บ่นเหนื่อยให้ได้ยินทั้งที่มีงานล้นมือ หน้าตาอาจารย์ยิ้มแย้มแจ่มใส และหัวเราะง่าย
อันนี้คงเป็นเคล็ดลับสุขภาพดีของอาจารย์  

จำ ได้ว่าเข้ามาปีแรกได้ไปปีนภูกระดึงกับอาจารย์และนิสิตวิชาการท่องเที่ยว อาจารย์ปีนได้สบายมาก ในขณะที่นิสิตและหนูออกอาการแฮ่กๆให้เห็นตั้งแต่แรกขึ้น  
 
จาก วันนั้นจนตอนนี้อาจารย์ก็ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง และทำงานเป็นที่ปรึกษาของสาขาวิชาฯแม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานสาขาภาษาตะวัน ตกแล้ว 

หนู ขอให้อาจารย์มีความสุขกับชีวิตอย่างที่อาจารย์มีอยู่ทุกวัน และสุขภาพแข็งแรง อาจารย์ทำให้หนูรู้สึกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข แม้ 60 ปีแล้วก็เป็นคนที่มีไฟได้ หนูหวังว่าเมื่อหนูอายุ 60 ปี หนูยังกระฉับกระเฉง และมีไฟในการทำงานอย่างอาจารย์
 
ขอบคุณอาจารย์สำหรับการเป็น role model ที่ดีค่ะ 

****************************************
 
หมาย เหตุ:  อาจารย์อักษรฯจะเกษียณอายุราชการเดือนกย. 54 ที่สาขาวิชามีการรวบรวม "คำนิยม" และความรู้สึกที่มีต่ออาจารย์ เราก็เลยเอามาบันทึกไว้ตรงนี้ด้วยซะเลย







เมื่อเราต้องร่วมงาน เลี้ยงกลางคืนที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อ 8 มิย. 54 โดยมีเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย คุณ Kristie Kenney เป็นประธานและมอบจดหมายแสดงความยินดีต่อผู้ได้รับทุนไปเรียนอเมริกา อาจารย์อักษรฯไปร่วมงานเป็นเกียรติและขึ้นเวทียืนเคียงข้างเราด้วย 
ขอขอบคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงาน / การสมัครทุนมาโดยตลอด 

 ขอขอบพระคุณยิ่ง ด้วยใจจริงที่กรุณา ขอขอบพระคุณ ๆ 
            (ร้องซ้ำ 3 ครั้ง) 
 
 
 
 

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Kebab: Turkish Dish

เปลี่ยนชาวเกาะไปเป็นชาวกรุง

การ เดินทางในกรุงเทพฯช่างน่าเวียนหัวสำหรับเรา ไปกทม.แต่ละที เราก็มักจะต้องจำกันใหม่ว่าเส้นทางไหนไปไหน และสอบถามเพื่อนโอ๋+เพื่อนอ๋อย เป็นประจำ ตามประสาต่างจังหวัดเข้ากรุง

เวลาที่เดินทางคนเดียวได้โดยไม่ต้องใช้แท็กซี่ เราจะภูมิใจมาก รู้สึก(เล็กๆ)เหมือนว่า เป็นคนกทม. เชี่ยวชาญชำนาญทาง ฮี่ๆ
เมื่อต้องไปกทม.ไปปฐมนิเทศ Pre- departure Orientation ก่อนไปอเมริกา ที่โรงแรม All Season ถ.สาธรใต้
โอ๋เขียนแผนที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไว้ให้ และวันแรกไปส่งเราที่โรงแรมเพื่อให้เราชำนาญทาง
 วันต่อไปจะได้ทำตัวเป็นชาวกรุงอย่างแนบเนียน

พวก เรา ออกจากอพาร์ทเมนต์โอ๋ประมาณ 7. 00 น. ไปถึงถนนศาลาแดงในเวลาอันรวดเร็ว 10 นาที แล้วก็เดินทะลุซอยเพื่อไปออกถนนใหญ่ซึ่งจะเห็นโรงแรม All Seasons อยู่อีกฟากถนน



ตอน เช้าๆ คนเดินกันขวักไขว่มากๆ ครั้งนี้เมื่อได้เดินช้าๆ เพราะเวลาเหลือเฟือ เราเห็นความเป็นระเบียบของคนกทม.ที่เข้าคิวเพื่อซื้อกาแฟตามร้านข้างทาง เห็นแบบนี้ก็อาจคิดว่ากาแฟ/ชา ร้านนั้นอร่อย แต่เราไม่ชอบรออะไรนาน เลยเดินเรื่อยๆไปเจอร้านคิวสั้นๆ อ่ะ...เลือกร้านนี้แหละ
แฮ่...สั่งชาเย็น เลยได้กาแฟเย็นมาแทน อะไรกันเนี่ยยย....
โชคดีที่มีข้าวเหนียวหมูเจียงฮายให้แทะเล่นเป็นอาหารเช้า ไม่งั้นงอนนน... (แม่ค้าจะรู้มั๊ยอ่ะ)





เรา ชอบสี่แยกถนนสาธรใต้จัง มาเมื่อปีที่แล้วตอนสอบสัมภาษณ์เราไม่ได้สังเกตเลยว่ามีรูปช้างหมอบที่สี่ แยก ทำให้เรานึกถึงจังหวัดกระบี่สี่แยกมนุษย์โบราณ เราว่าการได้เห็นรูปปั้นช้างน่ารัก ทำให้อากาศร้อนๆคลายตัว และเรียกรอยยิ้มจากคนที่เห็นได้ดี 


และแล้วก็มาถึงจุดหมายของเรา โรงแรม All Seasons ทางขึ้นไปห้องประชุมของที่นี่ตกแต่งน่ารักด้วยแอปเปิ้ลใส่ขวดโหล วันแรกที่ไปคิดว่ามันกินได้ซะอีก พอวันที่ 2 ลองสอบถามและไปยืนจับๆพิจารณาดู 
เอ่อ...กินไม่ได้แฮะ จริงๆไม่น่าจะคิดมาก เพราะหากกินได้มันก็ต้องเปลี่ยนแอปเปิ้ลกันอยู่เรื่อยๆ เสียเวลา 
ว่า แต่มันเหมือนแอปเปิ้ลจริงมากๆ จนอยากเอามากัดเล่น เราชอบแอปเปิ้ลเขียว มันอมเปรี้ยว อร่อยดี (เมื่อก่อนตอนเด็กๆไม่กิน อิๆ anti ของแพง 55)

การเดินทางก่อนถึงกทม.
จองตั๋วAir Asia อย่างกระชั้นชิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิย.54
ไม่ค่อยชอบสายการบิน Air Asia ที่ เวลาเข้าเว็บมักบอกราคาถูกไว้ก่อน 1800 บ. แต่เมื่อจ่ายท้ายสุดกลับพุ่งพรวดไปที่ 2446 บ. โอ้ว....ช่วยบอกรายจ่ายสุทธิมาเลยได้มั๊ยเนี่ย
 1,800 บ.เป็นแค่ค่าตั๋ว (ซึ่งสุดท้ายกลายเป็น 2060 บ.) + ค่าภาษี + ค่าโหลดกระเป๋า 276 บ. + ค่าที่นั่ง (ต้อง click ไปคลิกมาเพื่อไม่เอา) + ค่าประกันกระเป๋าเสียหาย (อันนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน)

นี่ถ้าไม่เพราะ Air Asia จอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ( ในขณะที่ NokAir / Orient Thai) จอดที่ดอนเมือง เราคงจะหาสายการบินอื่นไป อันนี้เอาสะดวกเนื่องจากสามารถใช้บริการ Airport Link ( ราคา 45 บ. จากสุวรรณภูมิ-พญาไท)

โชค ดีที่บินวันอังคารตอนค่ำ 19.25 น. คนขึ้นกทม.ไม่เยอะ ทำให้เราไม่มีเพื่อนนั่งร่วมแถว สามารถกางแขน กางขาได้ตามสบาย ฮี่ๆ   อย่างน้อย Air Asia ก็ยังมีข้อดีตรงนี้

----------------------------------------------